NewsHere We Go (79) วัดคะแนนเสียง สว. โหวต ‘เศรษฐา’ กับความเป็น “ส้มจืด” ของก้าวไกล

Here We Go (79) วัดคะแนนเสียง สว. โหวต ‘เศรษฐา’ กับความเป็น “ส้มจืด” ของก้าวไกล

ช่วงท้ายของรัฐบาลนี้ คุณประยุทธ์มีกำหนดการเดินสายตรวจราชการความคืบหน้าและติดตามโครงการที่รัฐบาลได้ทำไว้ หลายโครงการมีความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เช่น โครงการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) สนามบินสุวรรณภูมิ ที่พร้อมจะเปิดทดสอบการใช้เดือนกันยายนปีนี้ จะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็นปีละ 60 ล้านคน 

 

หรือโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงที่ 1 ที่จะเปิดใช้งานได้ปี 2570 เป็นต้น และยังมีโครงการที่คิดริเริ่มไว้สำหรับให้รัฐบาลใหม่มาสานต่อ โครงการเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่คุณประยุทธ์ทำไว้ให้คนไทยทุกคนโดยไม่คำนึงว่าใครจะเชียร์หรือไม่ชอบก็ตาม 

 

นี้คือผลงานของรัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ผลงานที่บางพรรคกล่าวหาว่ารัฐบาลคุณประยุทธ์อยู่มา 9 ปีประชาชนเสียประโยชน์ โครงการทั้งหมดต้องถือเป็นมาตรฐานที่ทิ้งไว้ให้ประชาชนคอยเปรียบเทียบกับผลงานของรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย

—–

 

อาทิตย์นี้จะมีเรื่องน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นสองเรื่องพร้อมๆ กัน คือให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีและคุณทักษิณกลับเมืองไทย ทั้งสองเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคม (บทความนี้เขียนก่อนเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น) ผู้สันทัดกรณีบอกว่าไม่มีอะไรแน่นอนว่าทั้งสองเหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง ประเทศไทยจะได้นายกรัฐมนตรี หรือคุณทักษิณจะบินมาถึงสนามบินดอนเมือง คุณจตุพรหรือคุณตู่ก็พูดทำนองนี้ 

 

ความยุ่งยากเรื่องแรกมีเค้าลางมาตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นเหมือนกับช่วงแรกที่มีการเชิญพรรคการเมืองอื่นๆมาร่วมรัฐบาล อุปสรรคของการตั้งรัฐบาลมีมากมาย ที่ดูออกจะรุนแรงคือข้อกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยละทิ้งสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชนว่าจะไม่รวมกับพรรค 2 ลุง สมาชิกพรรคถึงกับทำพิธีฉีกเผาเสื้อแดงทำนองผีไม่เผาเงาไม่เหยียบกันเลย 

 

แถมคุณเศรษฐาที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรียังถูกคุณชูวิทย์ออกมาแฉกลโกงทางธุรกิจเพื่อเลี่ยงภาษีอีกทำให้คุณเศรษฐาถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องธรรมาภิบาลหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเรื่องที่ประกาศว่าจะเร่งแก้รัฐธรรมนูญอีก ยังไม่นับเรื่องการแบ่งโควต้ารัฐมนตรีของพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลอีกที่ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนพรรคเพื่อไทยจะไปไม่รอด ต้องดีลดิ้นสุดตัว ไม่ปล่อยให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตกไปอยู่กับพรรคอื่นได้ง่ายๆ จะว่าไปแล้วหากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้แล้ว จะมีพรรคไหนเข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้อีก 

 

ปัญหาที่เห็นคือ คุณเศรษฐาจะฝ่าด่าน สว.ได้เสียงสนับสนุนมากพอตามที่ต้องการหรือไม่ ตอนนี้เสียงสนับสนุนปริ่มน้ำอยู่พอสมควร ตัวตึงของ สว.หลายคนไม่เอาคุณเศรษฐาค่อนข้างแน่นอน ทำอย่างไรก็เปลี่ยนใจยาก กลุ่มจะโหวตเห็นชอบให้ก็พอมีอยู่ น่าจะมากกว่าคราวคุณพิธา บางคนบอกว่าอาจได้ 25-30 คนแน่นอน ยังมีกลุ่มที่ถูกพรรคเพื่อไทยทาบทามแบบเจาะเป็นรายบุคคลอีกราว 30 คน กลุ่มนี้ยังไม่รู้ว่ารับปากจะโหวตให้กี่คน อีกกลุ่มคือพวกงดออกเสียง มีทั้งพวกที่ปฏิเสธเพื่อไทยหรือคุณเศรษฐา และพวกอยากแสดงท่าทีวางเฉย กลุ่มนี้มีมากเหมือนกันอาจถึง 50 คน 

 

ส่วนกลุ่ม สว.ที่ยังไม่ตัดสินใจหรือสองจิตสองใจ ขอรอดูหน้างาน อาจมีมากถึงหลักร้อยคน กลุ่มนี้อาจรอฟังคำชี้แจง รอดูท่าทีของ พปชร. และ รทสช. รวมๆ แล้วทำให้พรรคเพื่อไทยแอบมีความหวังอยู่ลึกๆ น่าจะได้ สว. 65 เสียงเป็นอย่างน้อย ซึ่งจะทำให้การเห็นชอบนายกเกินกึ่งหนึ่งของสองสภา 

 

และนี่กระมังเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คุณทักษิณตัดสินใจประกาศกลับประเทศไทยในวันเดียวกัน ถือว่าสัปดาห์นี้มีอะไรที่ทำให้คนไทยต้องติดตาม อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย

—–

 

มีข่าวเล็กๆ ของพรรคเล็กอย่างพรรคเป็นธรรม เลขาธิการพรรคเป็นคนกระตือรือร้นมากกว่าทุกคนในพรรค ถ้ายังจำได้ เมื่อไม่นานมานี้ มีกลุ่มการเมือง กลุ่มนักศึกษา นักกิจกรรมในจังหวัดชายแดนใต้จัดกิจกรรมจำลองการออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชของจังหวัดชายแดนใต้ พอจัดไปแล้ว เสียงคัดค้านโจมตีดังกระหึ่มทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเกินความคาดหมายของผู้เกี่ยวข้อง 

 

ข้อกล่าวหาของสังคมต่อกิจกรรมนี้ไปไกลถึงขั้นเรียกร้องให้ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องฐานกบฏแบ่งแยกดินแดน ตำรวจและ กอ.รมน. ได้เข้ามาสอบสวนดำเนินคดี ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดอาการร้อนตัวนักการเมืองระดับ สส. ต้องรีบเอาตัวออกห่าง บอกไม่รู้เรื่อง พรรคเป็นธรรมถึงขั้นออกแถลงการณ์ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ทั้งบอกด้วยว่ารองเลขาธิการพรรคที่ไปขึ้นเวทีไม่ได้มาปรึกษาก่อนล่วงหน้า จนรองเลขาคนนั้นต้องลาออกจากพรรคไป เพื่อไม่ให้พรรคมีมลทิน เรียกว่าเททิ้งทั้งนักศึกษา นักการเมืองของพรรคตัวเอง เอาตัวรอดไปคนเดียว 

 

ใครที่ติดตามการแสดงความเห็นในโลกโซเชี่ยลของกลุ่มนักเคลื่อนไหวในพื้นที่ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เลขาธิการพรรคและ สส.คนหนึ่งของพรรคก้าวไกลคือคนที่ออกความคิดเห็น วางแผน สนับสนุนในทุกด้านเพื่อกิจกรรมนี้ แต่ถึงเวลามีข้อสุ่มเสี่ยงทางกฎหมาย ก็หนีเอาตัวรอด ปล่อยเด็กนักศึกษาต้องมารับกรรมแทน ออกแถลงการณ์ขอโทษยังต้องเขียนเสียกำกวม ไม่ตรงไปตรงมา 

 

ส่วนพรรคก้าวไกลพอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกนายกรัฐมนตรีมากนักพรรคก้าวไกลกลัวจะหายไปจากสื่อไม่เป็นข่าวไม่เป็นที่พูดถึงอีก หากปล่อยนานไปประชาชนอาจจะลืม จึงจำต้องสร้างประเด็นให้เป็นที่กล่าวถึงทางสื่อตลอดเวลา วันไหนที่สภาเงียบเหงา เราจะได้เห็นคุณพิธาไปปรากฏตัวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่เนืองๆ 

 

สร้างวาทกรรมให้เป็นที่พูดถึงซึ่งมักจะเน้นไปวลีที่ว่า “โดนผู้มีอำนาจกลั่นแกล้ง”  “ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน” แต่ไม่เคยมองในมุมที่คุณอดิศร เพียงเกษ ร่ายกลอนถึงความล้มเหลวต่อการเสนอชื่อคุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี “ส้มจืด เพราะไร้เพื่อน ต่างคนเบือนเลือนลับหน” อีกทั้งตั้งเงื่อนไขไว้เยอะไม่ลดเพดานแก้มาตรา 112 บ้าง มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุงบ้าง ทุกอย่างอ้างประชาชนหมด สุดท้ายไปไม่ได้ ไฟที่ส่องการเมืองกำลังจะเลือนหาย ตอนนี้ทุกดวงย้ายไปส่องพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลจำเป็นต้องหาเวทีเล่น

 

เวทีที่ไปเล่นโดนไม่ตั้งใจจะให้เป็นข่าวใหญ่โตคือ สส.ของพรรคไปทะเลาะวิวาทโดดเข้ากระทืบคนในร้านอาหารจะกล่าวหาว่าเขาเมาสุราหรือไม่ก็ตาม แต่สถานะของความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรควรมีสติมีความยั้งคิดมากกว่านั้น ในสภาต่อหน้าสื่อก็บอกว่าประชาชนเป็นใหญ่ แต่ในร้านที่จำหน่ายสุรากลับไล่กระทืบประชาชนซะงั้น 

 

จะออกมาบอกว่าเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของสตรีเลยต้องใช้การกระทำที่รุนแรงขนาดนั้นเลยหรือ ยิ่งไปกว่านั้นตอนเกิดเหตุข่าวว่ามีผู้ใหญ่ของพรรคที่เป็นอาจารย์กฎหมายเชิดชูประชาชนเป็นใหญ่นั่งอยู่ด้วย ไม่ได้มีท่าทีห้ามปรามสมาชิกพรรคที่เข้าทำร้ายประชาชนเลย 

 

ต่างจากเวลาที่เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการผลักดันกลุ่มด้อมที่ออกมาอาละวาดในที่สาธารณะมักจะออกมาโจมตีว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน หรือการที่ สส.พรรคนี้กระทืบประชาชนไม่ถือเป็นความรุนแรง ไม่ผิด กฎหมาย

 

ยังมีเรื่องที่คุณปดิพัทธ์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคก้าวไกล โพสต์ภาพโฆษณาเบียร์ออกสื่อโซเชียล บอกว่าต้องการให้เป็นประเด็นถกเถียงทางข้อกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือประชาชน ทำทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมาย เป็นคำแก้ต่างที่ไม่สมด้วยเหตุผลเลย เจ้าตัวมีตำแหน่งใหญ่โตของฝ่ายนิติบัญญัติค้ำคอกลับมาทำผิดกฎหมายซะเอง 

 

หากเห็นว่ากฎหมายไม่เป็นธรรมก็มีช่องทางให้เสนอแก้ไข มีช่องทางที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาร่วมแสดงความเห็นอยู่แล้ว หรือจะเป็นแบบที่เขาว่ากันว่า ถ้าคนอื่นทำเรียกว่าผิดกฎหมาย แต่ถ้าก้าวไกลทำถือว่ากฎหมายต่างหากที่ผิด จริงๆแล้วคุณปดิพัทธ์ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ เป็นการแสดงภูมิที่ขาดวุฒิภาวะไปหน่อย

 

ทั้งสองเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงการกลั่นกรองและการควบคุมดูแล สส.ของพรรคที่ยังไม่ดีพอต่อการที่จะเข้ามาแบกรับภาระของประเทศ จะกลายเป็นตัวอย่างให้ด้อมทั้งหลายเลียนแบบ ดังจะเห็นจากพฤติกรรมของกลุ่มทะลุวังที่ถือเป็นผลผลิตของพรรคมาก่อนหน้านี้ และน่าแปลกใจตรงที่ทั้งสองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการผลักดันให้เกิดนโยบายสุราเสรีของพรรค 

 

ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดเสรียังขาดสติกันถึงเพียงนี้ หากเปิดเสรีอะไรจะเกิดขึ้น อยากให้ผู้บริหารของพรรคก้าวไกลดูแลผู้แทนของประชาชนให้ทั่วถึงกว่านี้ หากจะหลุดจากตำแหน่ง ส.ส.ด้วยเหตุนี้ หรือพ้นจากตำแหน่งรองประธานสภาด้วยการกระทำแบบนี้จะเป็นที่น่าเสียดายยิ่ง เหมือนกับที่คุณพิธาหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยเหตุตายน้ำตื้นเช่นกัน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า