Here We Go (10)

Soft Power เป็นคำที่มีการพูดถึงมากที่ในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลหลาย อย่างด้วยกัน ความเก่งกาจของน้องมิลลิ ฤทธิ์เดชของข้าวเหนียวมะม่วง ความไม่ชอบรัฐบาลชุดปัจจุบัน อิทธิพลของเกาหลีที่คน ไทยบางกลุ่ม ยกให้เป็นสุดยอดของการใช้ Soft Power

ได้ก่อให้ เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเทศเราได้ทำอะไรที่เป็นการใช้ Soft Power สร้างความเจริญก้าวหน้า ให้กับชาติบ้านเมืองหรือไม่

รัฐบาลได้ส่งเสริมการใช้เอกลักษณ์ของชาติ ไปสู่การสร้างประโยชน์ให้ สังคมและคนไทยหรือไม่

หรือได้แต่ปล่อยให้คนไทยทำกันเอาเองและเกาะกระแสเมื่อคนไทยคนนั้น ทำได้ดี

Soft Power มีผู้คนในหลายวงการ ตำราวิชาการ เอกสารอ้างอิง พูดถึงความหมายใน หลายมิติด้วยด้วยกัน ทั้งความหมายอย่างแคบและความหมายอย่างกว้าง

มีตัวอย่างที่น่าสนใจใน เกาหลี เราทราบดีว่าเกาหลี ใช้ภาพยนตร์ของเขาเป็น Soft Power ผลิตหนังออกมาเป็น ร้อยเป็นพัน คนไทยและคนชาติอื่นๆ ติดกันงอมแงม และซึมซับเรื่องราวของคนเกาหลีนำไปสู่การ ชื่นชม การเอาอย่าง การใช้ผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เป็นไปวิถีแบบคนเกาหลี หรือวัยรุ่นเกาหลี

นักพยากรณ์อากาศ ข้าราชการกลายเป็นอาชีพที่ทรงคุณค่า มีเกียรติ สมควรได้รับการยกย่อง เพราะมีคุณูปการต่อชีวิตประจำวัน ของคนเกาหลีเกือบทุกสาขาอาชีพ อาหารการกิน ความสวย ความหล่อความน่ารักของดารา ก็ทำให้ครีมบำรุงผิวของเกาหลีจึงขายดีอย่างเทน้ำเทท่า

โทรศัพท์มือถือในหนังของเขาเกือบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะพระเอกนางเอกหรือผู้ร้ายจะใช้แบรนด์ซัมซุง ที่ดูเท่และทันสมัย ผลยิ่งใหญ่ที่ตามมาคือ อิทธิพลของหนังเกาหลี ทำให้เกาหลีมีศักดิ์ศรีไม่น้อยหน้าจีน ญี่ปุ่น หรือออสเตรเลีย เลยไปจนถึง ยุโรป และทำให้สหรัฐอเมริกาไม่สามารถทอดทิ้งเกาหลีได้

—-

Soft Power เป็นสิ่งที่เราควรต้องคิดทบทวน ชวนกันถกแถลง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้ ถูกนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม

Soft Power ของประเทศไทย คืออะไรมันมีอะไรอย่างอื่นอีกบ้าง ที่นอกเหนือจาก ข้าวเหนียวมะม่วง

Soft Power ที่ช่วยทำให้ชาติไทย ของเราอยู่รอดปลอดภัย และอยู่ได้อย่างมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้ คืออะไร และจะทำอย่างไรต่อไปที่จะทำให้ อนาคตของชาติไทย มั่นคงยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีกด้วยการใช้ Soft Power ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับ สถานการณ์และสภาพแวดล้อม

Soft Power คือสิ่งที่ประเทศนั้นมีอยู่และได้ถูกดึงมาใช้เพื่อทำให้ชาติบ้านเมืองนั้นมี พลังอำนาจและมีศักยภาพ สามารถดำรงอยู่ในสังคมโลกได้อย่างมีศักดิ์ศรี รักษาผลประโยชน์ของ ชาติ สร้างความผาสุกให้กับประชาชน

โดยมีความแตกต่างจาก Hard Power ที่ประเทศนั้นมีอยู่ เช่นกัน
อยากย้อนกลับไปในอดีตว่านอกจากการใช้ Hard Power คือแสนยานุภาพทางทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ หรือกำปั้น บรรพบุรุษของเราได้ใช้อะไรนำพาชาติให้รอดพ้นปากเหยี่ยวปากกา

ไม่ตกเป็นขี้ข้าของมหาอำนาจฝรั่งตาน้ำข้าว ลำพังเครื่องบินรบ เรือรบ ปืนใหญ่ ปืนคาบศิลา ดาบอรัญญิก หรือทหารผู้กล้า คงไม่สามารถรักษาชาติไทยไว้ได้หรอก

—-

วัฒนธรรมไทย สยามเมืองยิ้ม ความมีน้ำใจ เป็นมิตรที่จริงใจกับทุกฝ่าย ความกล้าหาญ ของบรรพบุรุษที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน อ่อนนอกแข็งใน ยึดหลักเดินสายกลาง ไม่แข็งกร้าวสุดโต่ง นี่คือ Soft Power ที่แสนยานุภาพทางทหารก็มิอาจเปรียบเทียบได้

ไม่ต้องย้อนกลับไปยุคสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา หรือกรุงธนบุรี
เรามองย้อนกลับไปตั้งแต่ครั้งเริ่มต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ต้นรัตนโกสินทร์ สงครามกับพม่ายุติลงอย่างสมบูรณ์ อาจด้วยการมี Hard Power เป็นพลังอำนาจหลัก

ประเทศเพื่อนบ้านเกรงกลัวต่อ Hard Power ที่เรามี จึงทำให้เกิด การอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้

ต่อมาเมื่อต่างชาติ ชาวตะวันตกเข้าสู่สยามเพราะเราเปิดประเทศเพื่อการค้า การสัมพันธไมตรี การสร้างความเจริญ รุ่งเรือง ทรัพยากรธรรมชาติอันมหาศาล เป็นที่ต้องการของชาติตะวันตก

การฮุบเอาประเทศทั้ง ประเทศอย่างที่เขาทำกับประเทศเพื่อนบ้าน สยามจะรอดได้หรือ ถ้าวัดด้วย Hard Power

สยามเรา ไม่มีทางรักษาชาติบ้านเมืองไว้ได้

แต่ด้วยวิสัยทัศน์การมองการณ์ไกล การรู้จักใช้ Soft Power ซึ่งเป็นวัฒนธรรมประจำชาติ คุณลักษณะของคนไทย หลอมรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นพลังอำนาจ ที่สามารถต่อรองผลประโยชน์ และทำให้ผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนชาวสยามผ่านพ้นภัยนั้นมาได้ในที่สุด

คือความเป็นเอกราชที่รักษามาได้ถึงทุกวันนี้

ตัวอย่างใกล้ๆ ในยุคสงครามเย็น ยุคของทฤษฎีโดมิโนที่หลอกหลอนประเทศไทยในสมัยนั้น ทำไมประเทศไทยไม่ล้มเป็นโดมิโนตาม ประเทศเพื่อนบ้านไปด้วย ทำไมเรากลายเป็นมิตรทั้งกับสหรัฐอเมริกา จีน และสหภาพโซเวียตในยุคนั้น ได้อย่างผสมกลมกลืน “วัฒนธรรมไทย” นั่นแหละคือ Soft Power ที่ทำให้สยามคงอยู่เป็นไทยได้จนทุกวันนี้

กำปั้นและรอยยิ้ม ทั้งสองสิ่งเป็นพลังอำนาจ ยามใดควรใช้กำปั้น ยามใดควรใช้รอยยิ้ม

การชนะโดยไม่ต้องรบคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ เพราะไม่ต้องสูญเสียชีวิตผู้คน บ้านเมืองไม่พังทลาย บรรพบุรุษในอดีต พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จนถึงปัจจุบัน ทรงเลือกใช้ Hard Power และ Soft Power ได้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้ประเทศชาติและราษฎรได้ประโยชน์มากที่สุด

วันนี้เป็นหน้าที่ของ คนไทยทุกคนแล้วที่จะเลือกใช้ Soft Power ใดได้อย่างเหมาะสม ทำให้ Soft Power เป็นพลังอำนาจ นำไปสู่การสร้างความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ สร้างสังคมแห่งสันติสุข ยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน

โดย แกงส้ม