
นักท่องเที่ยวพุ่งทะยาน ญี่ปุ่นเปิดยอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในญี่ปุ่น ที่มียอดทะลุ 1.27 ล้านล้านบาท เหตุเงินเยนอ่อนค่า ทำให้การใช้จ่ายในญี่ปุ่นถูกกว่าจุดหมายอื่นๆ
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายในญี่ปุ่น 5.2923 ล้านล้านเยน (ราว 1.27 ล้านล้านบาท) ในปี 2566 ซึ่งสูงกว่ายอดใช้จ่ายในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ 4.8135 ล้านล้านเยน (ราว 1.15 ล้านล้านบาท) แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 78.6 ของจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2562 เนื่องจากอานิสงส์เงินเยนอ่อนค่า ทำให้การใช้จ่ายในญี่ปุ่นถูกกว่าจุดหมายปลายทางที่อื่นๆ
JNTO ระบุว่า นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เป็นชาติที่เดินทางเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นมากที่สุดในปี 2566 ที่ 6,958,500 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6 จากปี 2562
ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันเดินทางเข้าญี่ปุ่น 4,202,400 คน ลดลงร้อยละ 14.1 จากปี 2562 ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมดก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เดินทางเข้าญี่ปุ่นเพียง 2,425,000 คนในปี 2566 ลดลงถึงร้อยละ 74.7 เมื่อเทียบกับปี 2562
ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบในเดือน ต.ค. 2565 และปรับลดสถานะโรคระบาดโควิด-19 ลงเป็นประเภทเดียวกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ในเดือน พ.ค. 2566
การใช้จ่ายต่อคนโดยเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 212,000 เยน (ราว 50,763 บาท) สูงกว่าปี 2019 ถึง 53,000 เยน (ราว 12,691 บาท) โดยเงินเยนที่อ่อนค่าลงส่งผลให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายด้านที่พักและกิจกรรมสันทนาการเพิ่มขึ้น รวมถึงใช้เวลาท่องเที่ยวในญี่ปุ่นนานขึ้น
ในปีที่แล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายค่าที่พักทั้งสิ้น 1.8289 ล้านล้านเยน (4.4 แสนล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 34.6 ของการใช้จ่ายทั้งหมด ตามมาด้วยการซื้อสินค้าหรือช็อปปิ้งที่ 1.3954 ล้านล้านเยน (ราว 3.3 แสนล้านบาท), อาหารและเครื่องดื่ม 1.1957 ล้านล้านเยน (ราว 2.9 แสนล้านบาท) และการเดินทาง 6.024 แสนล้านเยน (ราว 1.44 แสนล้านบาท)
(1 เยน = 0.24 บาท)