ไม่ได้ขนอาวุธหรือทหาร ‘เศรษฐา’ ยืนยันเที่ยวบินจากเมียนมาที่บินมาลงที่แม่สอด เป็นเที่ยวบินโดยสารเพื่อการขนย้ายพลเรือน
สืบเนื่องจากกรณีที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยง สามารถเข้าควบคุมพื้นที่เมืองเมียวดีซึ่งเป็นเมืองการค้าชายแดนซึ่งมีพรมแดนติดกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และมีเครื่องบินโดยสารจากเมียนมา 1 ลำ ได้บินมาลองจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ก่อนบินกลับประเทศเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2567 เวลา 22:00 น.
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่าเที่ยวบินดังกล่าวได้รับการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่าง และเป็นการขนย้ายพลเรือนตามปกติ ไม่ได้มีการขนย้ายอาวุธหรือทหารแต่อย่างใด
เมื่อถูกถามว่า ได้มีการประสานกับกระทรวงกลาโหมของไทยอย่างถูกต้องตามขั้นตอนแล้วหรือไม่ นายเศรษฐาตอบยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน อีกทั้งจะมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย. 2567)
เพื่อหารือเรื่องภายในเมียนมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ รัฐมนตรีช่วย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบกเข้าร่วมหารือเพื่อการกำหนดทิศทางการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายเศรษฐากล่าวว่า รัฐบาลไทยมีความชัดเจนที่ต้องการให้เมียนมาเกิดความสงบ เป็นหนึ่งเดียวกัน มีสันติภาพ ก้าวหน้าและเจริญเติบโตตามศักยภาพที่มี เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญไทยอยากให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในเมียนมา
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการรับมือการอพยพของประชาชนชาวเมียนมานั้น นายเศรษฐากล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีการทะลักเข้ามา อย่าพึ่งไปคาดเดา เพราะยังไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ความสงบ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่าเครื่องบินดังกล่าวทางการเมียนมากล่าวว่าเที่ยวบินดังกล่าวเป็นเที่ยวบินอพยพข้าราชการของรัฐบาลเมียนมา ที่ขอข้ามฝั่งมาเพื่อขึ้นเครื่องบิน เหมือนกับตอนที่ไทยส่งเครื่องบินของกองทัพไทย ไปรับคนไทยที่ทำงานต่างประเทศ
อีกทั้งเครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินพาณิชย์ ไม่สามารถที่จะขนอาวุธได้อยู่แล้ว อีกทั้งสนามบินนานาชาติแม่สอดก็เป็นท่าอากาศยานพาณิชย์ ไม่สามารถที่จะดำเนินการขนอาวุธได้