News‘ดร.ณัฎฐ์’ สอนมวย ‘ผู้ว่าชัชชาติ’ การยกให้ที่ดินเป็นสาธารณะของ ‘ชูวิทย์’ ตกเป็นที่ดินสาธารณะแล้ว แม้ไม่จดทะเบียนการยกให้และเสียภาษีทุกปีก็ตาม

‘ดร.ณัฎฐ์’ สอนมวย ‘ผู้ว่าชัชชาติ’ การยกให้ที่ดินเป็นสาธารณะของ ‘ชูวิทย์’ ตกเป็นที่ดินสาธารณะแล้ว แม้ไม่จดทะเบียนการยกให้และเสียภาษีทุกปีก็ตาม

“ดร.ณัฎฐ์” มือกฎหมายมหาชน สอนมวย “ผู้ว่าชัชชาติ” การยกให้ที่ดินเป็นสาธารณะของ “ชูวิทย์” ตกเป็นที่ดินสาธารณะแล้ว แม้ไม่จดทะเบียนการยกให้และเสียภาษีทุกปีก็ตาม

 

จากกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบที่ดินของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถึงความชัดเจนการยกที่ดินเป็นสาธารณะ ว่าได้รับรายงานจาก นายขจิต ชัชวาณิชย์ ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ข้อมูลตามโฉนดที่ดินของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยังไม่ได้เป็นที่สาธารณะ กรุงเทพมหานคร ไม่ได้มีส่วนร่วมเข้าไปปรับปรุงพื้นที่สาธารณะ ยังเป็นที่ดินเอกชนอยู่และมีการจ่ายภาษีที่ดินอย่างต่อเนื่องตามกฎหมายที่ผ่านมา การจ่ายภาษีประมาณ 3,000,000 บาท ขณะเดียวกันการยกที่ดินให้เป็นที่ดินสาธารณะ เข้าใจว่าเกิดในกระบวนการศาลชั้นฎีกา…” 

 

ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฎฐ์”นักกฎหมายมหาชนคนดัง ได้อธิบายถึงเรื่องดังกล่าวว่า การอุทิศที่ดินให้ใช้เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน อาจกระทำโดยแสดงเจตนาโดยชัดแจ้งหรือปริยาย ที่ดินนั้นย่อมตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทันทีที่แสดงเจตนาอุทิศ ตาม ป.พ.พ.1304 ไม่จำต้องจดทะเบียนและพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องแสดงเจตนารับ มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๖๔/๒๕๕๕, ๔๓๗๗/๒๕๔๙ วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐาน ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๑๐๘๙/๒๕๕๖ 

 

เมื่อที่ดินตกเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว ผู้ยกให้จะทำหนังสือยกเลิกการยกให้ จึงไม่ทำให้ที่ดินนั้นกลับคืนมาเป็นของผู้ยกให้อีก การที่นายชูวิทย์มีเจตนาอุทิศที่ดินให้เป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินในคดีรื้อบาร์เบียร์ โดยนายชูวิทย์ได้สร้างสวนชูวิทย์เพื่อให้ประชาชนออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ เพื่อให้ศาลฎีกาลงโทษสถานเบา วิธีการอุทิศที่ดินเพื่อให้เป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ประชาชนใช้ร่วมกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304 (2) จะด้วยวาจาหรือเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อศาล ถือเป็นการอุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสมบูรณ์แล้ว ตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน 

 

เมื่อการอุทิศที่ดินให้เป็นประโยชน์สาธารณะ แม้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามความประสงค์ของผู้อุทิศ หรือใช้ประโยชน์ไม่ได้ ที่ดินนั้นยังคงสภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๐๐๔/๒๕๔๔, ๕๑๑๒/๒๕๓๘, ๓๐๐๘/๒๕๓๕ วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐาน กรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์พิจารณาเพียงว่า กทม.ไม่ได้มีส่วนร่วมเข้าไปปรับปรุงพื้นที่สาธารณะ ยังเป็นที่ดินเอกชนอยู่ และมีการจ่ายภาษีที่ดินอย่างต่อเนื่องตามกฎหมายที่ผ่านมา สรุปเป็นภาษาชาวบ้าน คือ ที่ดินยังเป็นของนายชูวิทย์ 

 

ตนขอถามว่า ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายชัชชาติได้ปรึกษานิติกร กทม.หรือฝ่ายกฎหมายหรือยัง ตนจะสอนมวยให้ จะได้มีความรู้กฎหมายในการทำหน้าที่ผู้ว่า กทม.จะต้องยึดหลักกฎหมาย เน้นความถูกต้อง ไม่เน้นถูกใจ ตนไม่ได้รู้จักกับนายชูวิทย์ จอมแฉ หรือนายศรีสุวรรณ แต่จะให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชน จะได้เป็นทางออกของบ้านเมือง แม้จะเป็นเรื่องที่ดินส่วนตัวของ นายชูวิทย์ แต่นายชูวิทย์อุทิศที่ดินให้เป็นที่ดินสาธารณสมบัติที่ดินแล้ว เพื่อลดโทษคดีอาญา ในชั้นฎีกาสถานเบา ถือเป็นเรื่องสาธารณะ

 

ตนสามารถติชมด้วยความสุจริตได้ ให้นายชัชชาติไปอ่านแนวคำพิพากษาศาลฎีกาวินิจฉัยได้ชัดแจ้ง เพื่อสำเหนียกในการรักษาผลประโยชน์สาธารณะ แม้นายชูวิทย์จะมีทนายความข้างกาย ต้องยึดหลักกฎหมายเป็นที่ตั้ง หลักนิติรัฐ นายชูวิทย์สร้าง “สวนชูวิทย์” อุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นการกระทำโดยปริยาย โดยยินยอมให้ประชาชนทั่วไปที่มิได้มีนิติสัมพันธ์ทางส่วนตัวกับนายชูวิทย์ไม่ว่าทางใด ได้อย่างอิสระเสรี แม้ไม่ได้จดทะเบียนยกให้เป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่ดินแปลงดังกล่าวตกเป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับประชาชนใช้ร่วมกันแล้วตาม ป.พ.พ. มาตรา 1403 (2)

วิธีการร้องขอให้กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบของนายศรีสุวรรณ จรรยา ไม่เป็นประโยชน์และไม่สามารถยับยั้งการก่อสร้างได้ เพราะการที่นายชูวิทย์อุทิศที่ดินให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินในชั้นศาลฎีกาในคดีอาญา ศาลไม่อาจบังคับให้นายชูวิทย์ผู้อุทิศไปจดทะเบียนโอนได้ มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๗๒๗/๒๕๓๗ และ๑๒๗๒/๒๕๓๙ หากนายศรีสุวรรณจะทำเพื่อสังคมจริงๆ เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นมองว่า เป็นนักร้องบ้าง หิวแสงบ้าง ไปจับผิดนายชัชชาติ ผู้ว่า กทม.บ้าง 

 

แนะนำว่าควรไปยื่นฟ้องคดีแพ่งขอให้ที่ดินแปลงดังกล่าวตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินและไต่สวนฉุกเฉินขอคุ้มครองชั่วคราวห้ามดำเนินการก่อสร้างอาคารในพื้นที่ดินพิพาท และขอให้ศาลเรียกให้ กทม.เข้ามาในฐานะบุคคลที่สามหรือโจทก์ร่วมหรือจำเลยร่วมในฐานะผู้ร้องสอดตาม ป.วิแพ่ง มาตรา 57 ตนไม่แน่ใจว่า นายศรีสุวรรณร้องให้ตรวจสอบในนามองค์กรสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย สมาคมมีอำนาจ ขอบเขตเพียงใด และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้จดทะเบียนไว้หรือไม่ อย่างไร เพราะที่ดินของนายชูวิทย์เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ เป็นเรื่องทางแพ่ง ไม่เกี่ยวกับการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญหรือการใช้อำนาจทางปกครอง ไม่เกี่ยวข้องกับการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า