ผอ. TDRI ชี้ตั้งรัฐบาลช้า นักลงทุนอาจหนียกเว้นกลุ่มธุรกิจสีเขียว และ EV ที่ยังมั่นใจ ไม่สนการเปลี่ยนรัฐบาล

น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการโครงการ TDRI Economic Intelligence Service (EIS) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ ร่วมงานเคทีซี x ทีดีอาร์ไอ เปิดเวทีเสวนา KTC FIT Talks #9 “จับตาเศรษฐกิจไทยและธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคครึ่งหลังปี 2566” โดยได้กล่าวว่า

คาดว่าตัวขับเคลื่อนหลักคือการท่องเที่ยวและการส่งออกจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2566 แต่ก็มีความเสี่ยงหลายปัจจัยที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ช้าลง

ปัจจัยภายนอกประกอบด้วยเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัว และมีอัตราการถดถอยลดลง  และปัจจัยจากอัตราดอกเบี้ยและราคาต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับสูง อาจบั่นทอนกำลังซื้อและกำลังการลงทุนของนักลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ มาจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่  ซึ่งถ้าหากล่าช้าไปกว่าที่กำหนดในเดือนสิงหาคมนี้ จะส่งผลกระทบต่อความั่นใจของนักลงทุนที่ต้องการความชัดเจน และหากยืดยาวต่อไป อาจทำให้นักลงทุนเปลี่ยนใจ ย้ายไปลงทุนในประเทศอื่น

สำหรับนโยบายที่มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจ เช่นนโยบายขึ้นค่าแรง 450 บาททันที อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้แรงงานสูง แต่สำหรับธุรกิจมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านสังคมคาร์บอนต่ำ พลังงานสะอาด การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้ยังมีความมั่นใจจะลงทุนในประเทศไทย แต่ยังคงรอติดตามว่ารัฐบาลใหม่จะมีโปรโมชั่นอะไรให้กับรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มากขึ้นหรือไม่ เมื่อเทียบกับมาตรการที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล จะทำให้การจัดสรรงบประมาณปี 2567 มีความล่าช้า เนื่องจากไม่มีรัฐบาลที่ชัดเจน อาจไม่มีเงินงบประมาณสนับสนุนด้านเศรษฐกิจของประเทศออกมา