เตรียมใช้ระบบ Smart C/O ผู้ประกอบการได้เอกสารไวขึ้น ลดขั้นตอน-ค่าใช้จ่าย ได้มากกว่าปีละ 500 ล้านบาท
กรมการค้าต่างประเทศ เร่งแผนผลักดันกระบวนการขอรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบดิจิทัล ช่วยลดขั้นตอนและประหยัดค่าใช้จ่ายจากต้นทุนการเดินทางและระยะเวลาการขอรับหนังสือรับรองฯ ได้เฉลี่ยมากกว่าปีละ 500 ล้านบาท
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2566 นี้ กรมฯ จะทำการเปิดใช้ระบบงานบริการที่สำคัญของกรมฯ 2 ระบบ ได้แก่ ระบบตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าแบบไร้กระดาษ และระบบการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า ณ สำนักงานผู้ประกอบการ (SMART C/O) โดยเป็นการนำนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามาใช้ในการพัฒนาระบบการให้บริการตรวจคุณสมบัติด้านถิ่นกำเนิดสินค้า และออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของไทย ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับบริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว ในการใช้งานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม (User Friendly)
ทั้งนี้ ระบบตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าแบบไร้กระดาษหรือระบบตรวจต้นทุนของสินค้าก่อนการส่งออก ในกรณีที่ผู้ประกอบการต้องการขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTAs) จะสามารถบันทึกคำขอตรวจคุณสมบัติด้านถิ่นกำเนิดสินค้าได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงแจ้งผลการตรวจคุณสมบัติด้านถิ่นกำเนิดสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการทราบผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับระบบ SMART C/O ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องเดินทางมารับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form C/O) ที่กรมฯ อีกต่อไป โดยสามารถพิมพ์ Form C/O ณ สำนักงานของตนเองได้ทันที ซึ่งระบบฯ นี้มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากจะมีการส่งข้อมูล Form C/O ที่กรมฯ ออก ไปประทับรับรองการมีอยู่ของ Form C/O ณ เวลานั้นๆ (e – Timestamping) โดยหน่วยงานกลาง ได้แก่ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)
โดยทั้ง 2 ระบบฯ นี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายจากต้นทุนเรื่องการเดินทาง และระยะเวลาการขอรับหนังสือรับรองฯ อีกทั้งยังลดขั้นตอนการขอรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้เฉลี่ยมากกว่าปีละ 500 ล้านบาทอีกด้วย