ดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย 11 เม.ย. 2567 VS ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 เม.ย. 2567
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2567 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นเรื่องแหล่งเงินดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 ล้านบาท โดยระบุว่าเป็นการกู้เงินจาก ธกส. มาแจกนั่นเอง ก๊อบปี้วิธีการของโครงการจำนำข้าวมาทั้งดุ้น พูดง่ายๆคือมาจาก DNA เดียวกัน
ทำให้นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาโต้แย้งว่าโครงการกระทำตามกรอบของกฎหมาย สามารถกระทำได้ ไม่ใช่เรื่องผิด รัฐบาลก่อน ๆ รวมไปถึงรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยกู้เงิน ธกส. มาใช้เช่นกัน และโครงการประกันรายได้ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ สร้างผลลัพธ์การเพิ่มรายได้เกษตรกร ไม่ได้แม้แต่เสี้ยวของโครงการรับจำนำข้าว
“DNA ของเพื่อไทย แตกต่างจาก พรรคประชาธิปัตย์ที่นำโดยนายจุรินทร์ โดยสิ้นเชิง เพราะประชาธิปัตย์ มี DNA ที่ไม่เคยดำเนินนโยบายใดประสบความสำเร็จเป็นที่จดจำของพี่น้องประชาชนเลย จึงอยากให้ลองสำรวจพรรคของท่านว่าทำอะไรเป็นที่จดจำของประชาชนบ้าง ก่อนที่จะแปะป้ายกล่าวหาผู้อื่น” นายดนุพร กล่าว
ทำให้เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาตอบโต้ระบุว่า “ที่กล่าวหาประชาธิปัตย์ มี DNA ที่ไม่เคยดำเนินนโยบายใดประสบความสำเร็จเป็นที่จดจำของพี่น้องประชาชนนั้น ประเด็นนี้เชื่อว่าไม่ได้ใช้สมองคิดก่อนพูด เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลงานเป็นที่ปรากฏมากมายซึ่งเกิดประโยชน์ต่อประชาชน และความจริงก็คือความจริง พี่น้องประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะออกนโยบายที่คิดทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติให้เกิดความยั่งยืน”
“พรรคไม่มีนโยบายเลือกปฏิบัติ ไม่มีนโยบายที่คิดขึ้นมาเพื่อคดโกงงบประมาณแผ่นดิน ไม่มีความคิดเรื่องทุจริตเชิงนโยบาย และไม่มี DNA สายกรรมพันธุ์แบบโกงบ้านโกงเมือง โฆษกพรรคเพื่อไทยทราบดีว่าคดีมหากาพย์โกงชาติ ศาลมีคำพิพากษาให้ถึงที่สุด มีจำนวนมากที่สุดเกิดขึ้นในรัฐบาลใด
อย่ามาแถลงให้ดูดีแต่สวนทางความเป็นจริง การมาชี้นิ้วว่าคนอื่นแต่สี่นิ้วชี้เข้าหาตัวเองทั้งสิ้น ถ้าคิดว่าใครในพรรคประชาธิปัตย์ทำผิดก็ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอย่าละเว้น และถ้าคิดว่าโครงการจำนำข้าวดีจริง ไม่มีทุจริต ก็ขอท้าให้พรรคเพื่อไทยหยิบยกเอาโครงการจำนำข้าวกลับมาเป็นนโยบายหลักอีกรอบได้เลย” นายราเมศกล่าว