ศาลยกฟ้อง คดี ‘ปริญญ์’ อนาจาร-พรากหญิง 17 ในรถตู้ส่วนตัว ส่วนคดีอนาจารลูบแขน-ต้นขา หมดอายุความ
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 66 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีพรากผู้เยาว์ ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน18 ปี เพื่อการอนาจาร
อัยการฟ้องว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 61 เวลากลางวัน จำเลยพรากหญิงสาวอายุ 17 ปีเศษรายหนึ่งไปจากผู้ปกครองเพื่อการอนาจารโดยหญิงนั้นเต็มใจ อีกทั้งมีลักษณะที่เปิดเผยต่อหน้าธารกำนัล โดยเหตุเกิดที่แขวง และเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร และจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อหาอนาจารเด็กอายุตั้งแต่ 15 ไม่ถึง 18 ปี ไม่เข้าข่ายกระทำความผิด เนื่องจากเกิดเหตุภายในรถตู้ส่วนตัว ที่มีผ้าม่านและฟิล์มดำปิดบัง และมีม่านกั้นระหว่างคนขับรถกับผู้โดยสาร ทำให้บุคคลภายนอกไม่สามารถรับรู้ได้
ส่วนการลูบไล้แขนและต้นขา ถกกระโปรง ถือเป็นคดีอนาจารที่ยอมความได้ อีกทั้งคดีดังกล่าวมีอายุความเพียง 3 เดือนนับจากวันเกิดเหตุ จึงถือว่าคดีหมดอายุความ จึงยุติคดีนี้ไป
สำหรับคดีพรากผู้เยาว์ ฯ เนื่องได้รับฟังข้อเท็จจริงจากจำเลยว่าอาสาจะไปส่งผู้เสียหายจากออฟฟิศไปคอนโด โดยไม่มีการออกนอกเส้นทาง อีกทั้งเมื่อเกิดพฤติการณ์ที่ลูบไล้ผู้เสียหายระหว่างทางภายในรถตู้ส่วนตัว ผู้เสียหายขอลงข้างทางเพื่อเดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งจำเลยยินยอมให้ลงจากรถ จึงไม่เข้าข่ายพรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดา พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จึงพิจารณายกฟ้องคดี
สำหรับคดีที่นายปริญญ์เป็นผู้ถูกฟ้องนั้น ก่อนหน้านี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุกนายปริญญ์ 4 ปี ฐานล่วงละเมิดทางเพศแอนนา–หทัยรัตน์ วิทยพูม อดีตภรรยา ไฮโซลูกนัท–ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย พร้อมทั้งจ่ายค่าชดเชยให้แล้ว 2 ล้านบาท และได้พิพากษาจำคุก 2 คดี รวมโทษจำคุก 4 ปี 8 เดือน และยกฟ้อง 1 คดี ส่วนศาลเชียงใหม่พิพากษายกฟ้องนายปริญญ์ 1 คดี