News‘คริส’ เปิดเหตุผลลาก้าวไกล ชี้พรรคไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเหมือน โฆษณาต่อสังคม ทำงานแบบ “โปลิตบูโร” และกำลังจะเป็นพรรคที่ดีแต่พูด

‘คริส’ เปิดเหตุผลลาก้าวไกล ชี้พรรคไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเหมือน โฆษณาต่อสังคม ทำงานแบบ “โปลิตบูโร” และกำลังจะเป็นพรรคที่ดีแต่พูด

วันที่ 8 ก.พ. 2566 นายคริส โปตระนันท์ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตจตุจักร พญาไท ราชเทวี ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และมูลนิธิเส้นด้าย ได้ออกมาระบายความในใจถึงสาเหตุที่ลาออกจากพรรคก้าวไกล 

 

โดยระบุว่า พรรคก้าวไกลไม่มีความเป็นประชาธิปไตยแบบที่โฆษณา ทำงานโดยการตัดสินใจจากคนกลุ่มเล็ก เหมือนระบบ “โปลิตบูโร” (ระบบแบบพรรคคอมมิวนิสต์จีน)

 

นอกจากนี้ ยังเลือกตัวผู้สมัครจากคนใกล้ชิด แม้จะมีประวัติไม่ดีและเคยล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งมูลนิธิเส้นด้ายต้องเข้าไปช่วยผู้ถูกกระทำสู้กับผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล และนโยบายสวัสดิการที่จะทำให้ประเทศเกิดความวิบัติ

 

——————

ข้อความของคริส

——————

 

สวัสดีครับประชาชนที่รักทุกท่าน

 

วันสองวันนี้มีคนสอบถามผมเข้ามาเยอะว่า ผมยังเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลอยู่หรือไม่?

ผมเรียนถึงทุกท่านตามตรงว่า ผมมีความภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งในพรรคนี้ไม่น้อยกว่าใคร

แต่ตัวผมก็ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพราะเหตุผลสามประการ

 

  1. ผมอยากจะทำการเมืองในพรรคที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ความเป็นประชาธิปไตยของพรรคยังห่างจากที่พรรคโฆษณาอีกมาก การที่ผมได้มาร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่กับคุณธนาธรเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561 เพราะผมไม่ได้มาทำการเมืองเพื่อให้ใครได้เป็น ส.ส. หรือเพื่อให้ใครได้อำนาจ หรือมาทำการเมืองเพื่อผลักดันวาระทางการเมืองของใครบางคน 

 

ผมอยากได้พรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คือพรรคการเมืองที่ประชาชนเป็นเจ้าของ

เวลาจากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านมา 5 ปี 

 

ต้องถามกลับไปที่ประชาชนผู้เป็นสมาชิกพรรค จำนวนกว่า 60,000 คน ว่าทราบบ้างหรือไม่ว่า 

 

พรรคมีประชุมสามัญวันไหน  พรรคมีการคัดเลือกผู้สมัครส.ส.กันอย่างไร กลไกในการคัดเลือกนโยบายที่จะหาเสียงในคราวนี้ คุณเคยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจหรือไม่? ใครจะได้เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ คุณรู้หรือไม่?

 

ผมในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกตลอดชีพทั้งพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล ตอบได้เลยว่า เรื่องทั้งหมดที่เป็นเรื่องที่สำคัญมากทั้งสิ้น ล้วนเป็นเรื่องของการตัดสินใจของคนกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ผมให้ชื่อเล่นกลุ่มนี้ว่า “โปลิตบูโร”  

 

หากการบริหารพรรคยังเป็นอย่างนี้ หากพรรคก้าวไกลได้อำนาจในการบริหารประเทศ พรรคก้าวไกลจะบริหารประเทศอย่างไร ก็คงต้องอยู่ที่คนกลุ่มนี้ ไม่ได้อยู่สมาชิกพรรคแต่อย่างใด

 

เรื่องดีๆ ใครก็พูดได้ แต่ทำยาก ผมก็เข้าใจ มิฉะนั้น พรรคก้าวไกลในอนาคตคงจะมีชะตากรรมไม่ต่างจากพรรคการเมืองที่ดีแต่พูด (Hypocrital party)

 

เรื่องนี้ผมสะท้อนให้แกนนำฟัง ผมพูดในที่ประชุมใหญ่พรรคทุกปี พูดกับทุกคน คำตอบที่ได้มีเพียงแค่ “ขอเวลาหน่อย” “เรายุ่งมาก อดทนหน่อยนะ ทำให้แน่ ๆ” “เลือกตั้งคราวหน้า เราทำแน่ ๆ”

 

ฟังดี ๆ มันคล้ายที่คุณประยุทธ์พูด “ขอเวลาอีกไม่นาน” 

 

เรื่องนี้ผมรับรู้อย่างลึกซึ้งด้วยตัวเอง เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมสอบถามผ่านแกนนำว่า ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจะจัดการอย่างไร

 

เป็นไปได้หรือไม่ที่ผมจะขยับไปลงส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เพราะมีโอกาสสูงมากที่เขตที่ผมลงรอบปี 62 (ราชเทวี พญาไท จตุจักร 2 แขวง) จะถูกแบ่งใหม่แยกเป็นสามส่วน และผมก็เชื่อว่า ความรู้ความสามารถของเราสามารถที่จะช่วยให้พรรคหาเสียงทั่วประเทศได้ 

 

เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา การทำงานของผมและเพื่อนๆ ในกลุ่มเส้นด้ายลงไปทำงานกับชุมชนแออัดทั่วทุกเขตในกทม. และในอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ จน ส.ก.ในกลุ่มของผมได้รับเลือกตั้งจำนวนมากและเกือบชนะอีกจำนวนหนึ่ง

 

คำตอบที่ได้กลับมาคือ คุณจะมาเป็นได้ยังไง? คุณเหยียบย่ำหัวใจคนในพรรคขนาดนี้

 

ผมก็งงสิครับนี่มันเรื่องอะไร ผมไปเหยียบใครตอนไหน พอนั่งนึกก็ถึงบางอ้อ

 

ผมคัดค้านการลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของ ส.ส.วิโรจน์ เพราะเห็นว่าตัวผู้สมัครของเราไม่ดีพอที่จะสู้กับผู้ว่าชัชชาติ

 

o ผลคือ พรรคก้าวไกลแพ้ต่อผู้ว่าชัชชาติชนิดคะแนนทิ้งกัน 2 แสนกับ 1.2 ล้านเสียง

 

ผมคัดค้านการแต่งตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อคนหนึ่งมาเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งส.ส.ซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ เพราะส.ส.บัญชีรายชื่อไม่มีทางที่จะเข้าใจการเลือกตั้งแบบเขต หากไม่เคยลงเลือกตั้งมาก่อน

 

o ผลคือ พรรคก้าวไกลแพ้ในเขต ชนิดคะแนนทิ้งกันเกือบหมื่นคะแนน

 

ผมคัดค้านการแต่งตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อคนหนึ่งมาเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งส.ส.ในกรุงเทพมหานคร ปี 66 อีกครั้ง เพราะเรากำลังเอาคนที่ทำเลือกตั้งแพ้มาแล้วครั้งหนึ่งมาคุมเลือกตั้งที่สำคัญกว่าและใหญ่กว่า

 

ผมในฐานะอดีตประธานมูลนิธิเส้นด้าย แถลงข่าวกรณีที่อาสาของมูลนิธิเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากอดีต ส.ก. พรรคก้าวไกล  

 

o ผลคือ ผมโดนถล่มจากสมาชิกพรรคว่า ไม่ปกป้องพรรค

 

ผมไม่เคยกลัวในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่เคยกลัวในการกระทำที่เราคิดว่าถูกต้อง และที่ผ่านมา ผมพูดตรงๆกับพรรคเสมอถึงความยุติธรรมในประเด็นต่างๆ เช่น การเกลี่ยทรัพยากรของส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กับส.ส.เขต ความน้อยเนื้อต่ำใจของคนที่ลงพื้นที่เหล่านี้อยู่ในใจของผู้สมัครท้องถิ่น หรือผู้สมัครส.ส.เขตทุกคน แต่ไม่มีใครกล้าพูด แต่การที่ผมพูดกับแกนนำแบบนั้น มันทำให้ผมกลายเป็น

 

ทำไมคุณถึงมีปัญหาตลอดเลย?

 

ผมเป็นคนเลว เพราะผมต้องการแย่งเงิน แย่งทรัพยากรจากส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ?

ผมเป็นคนไม่จงรักภักดีกับพรรค?

 

วันที่ผมนั่งคุยกับแกนนำเรื่องการขยับไปลงส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ วันนั้นแกนนำท่านหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท เปรียบเทียบให้ผมฟังว่า หากมีเซลล์ในบริษัท 2 คน คนแรกเป็นคนเก่ง คนฉลาด ยอดขายดีมาก ๆ แต่ต่อรองผลประโยชน์ตลอด กับอีกคนยอดขายครึ่งเดียวของคนแรก แต่จงรักภักดีมากๆ เค้าจะเลือกคนที่สอง

 

ผมก็เลยรู้แล้วว่า ชะตากรรมผมในพรรคนี้จะเป็นตาย ร้าย ดี ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผมจะพิสูจน์ความจงรักภักดีกับ “โปลิตบูโร” ได้หรือไม่

 

แน่นอนนั่นคือวิธีการบริหารงานแบบหนึ่ง เรื่องนี้ไม่มีถูก ไม่มีผิด

 

แต่เมื่อคุณโฆษณากับประชาชนแล้ว ว่าคุณเป็นพรรคประชาธิปไตย พฤติกรรมของคุณต้องทำให้ได้ตามที่คุณพูด

 

ไม่งั้นจะกลายเป็น สำนวนไทย ข้างนอกสุกใส ข้างในตะติ๊งโหน่ง

 

  1. ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายหลายประการของพรรคก้าวไกล

 

พรรคการเมืองอนาคตใหม่ที่ผมร่วมจัดตั้ง ผมฝันว่าพรรคจะเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นเหมือนร่มคันใหญ่ ที่สามารถโอบรับได้กับความหลากหลายของสมาชิกพรรค ไม่ว่าจะเป็นความคิดการเมืองแบบฝั่งซ้าย ความคิดการเมืองแบบฝั่งขวา ความคิดเศรษฐกิจแบบเสรี ความคิดเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม 

 

วันแรกจุดร่วมของจุดใหญ่คือการไม่เอาเผด็จการ (เรื่องการแก้ไข 112 ในวันนั้นยังไม่ใช่วาระของพรรคด้วยซ้ำ) ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่เหลือ อ.ปิยบุตรยังเคยบอกผมตอนเถียงกับอ.ษัษรัมย์ (ตอนนั้นอ.เสนอเรื่องรัฐสวัสดิการ แต่ผมเสนอว่าคำตอบน่าจะเป็นเศรษฐกิจแบบเสรีมากกว่า) เรื่องนโยบายเศรษฐกิจของพรรคว่า เดี๋ยวค่อยไปคุยกัน เมื่อเราทำภารกิจสำเร็จ ต่างฝ่ายค่อยแยกออกไปตั้งพรรคก็ได้

 

5 ปี เดินผ่านไป 

 

วันนี้นโยบายของก้าวไกลหล่นลงมาจากฝากฟ้า หล่นลงมาจากห้องแอร์ ไม่ว่าคุณจะเรียกชื่อมันว่าอะไร

 

วันนี้หนึ่งในนโยบายหาเสียงที่สำคัญที่สุดของพรรคก้าวไกลคือ เงินบำนาญของคนที่อายุเกิน 60 ปี ถ้วนหน้าเดือนละ 3,000 บาท หากนโยบายนี้สำเร็จ รัฐบาลจะมีรายจ่ายจากแปดหมื่นกว่าล้าน เป็นสามแสนล้านหกหมื่นล้านบาททันที

 

หากใช้นโยบายนี้ต่อไปอีก 10 ปี คนสูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะกลายเป็น 20 ล้านคน เราจะมีรายจ่ายประจำปีปีละ 6 แสนกว่าล้านบาท หรือเท่ากับประมาณ 20% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ประเทศไทยเตรียมรับความชิบหายได้เลยครับ

 

วันนี้ถ้าไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ถ้าผมอยู่ในพรรค ผมจะทำอย่างไรได้ครับ นอกจากเวลาใครพูดถึงนโยบายนี้ก็เงียบๆ แล้วกระซิบกับเค้าว่า ผมไม่เห็นด้วยนะ

 

ที่ผ่านมาวัฒนธรรมของพรรคคือ ไม่เห็นด้วยอะไรก็คุยกันภายใน 

 

เพราะถ้าผมพูด คนในพรรคก้าวไกลจำนวนมากที่ไม่สามารถแยกแยะได้ ก็จะชี้หน้าคนที่คิดไม่เหมือนตนว่า ไม่มีอุดมการณ์ ไม่จงรักภักดีต่อพรรค

 

ผมคนหนึ่งที่คิดไม่เหมือนพรรคทั้งหมด จะมีทางไหนเป็นทางออกครับ

 

เมื่อระบบในพรรคเป็นแบบนี้ ผมซึ่งกำลังจะเสนอตัวลงเลือกตั้งในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลจึงไม่สามารถจะเป็นเซลล์ขายนโยบายของพรรคได้จริงๆ เพราะเราเป็นนักการเมือง เรามีความเชื่อของเรา เราไม่ใช่นักขายที่ไม่ว่าของจะดีหรือไม่ดี ก็ต้องโกหกประชาชน

 

บางคนบอกผมว่า อดทนอีกเดียวเอง จะได้เป็นส.ส.แล้ว 

 

ถ้าผมได้เป็นส.ส.แล้วผมต้องทรยศต่อตัวเอง ทรยศต่อประชาชน ผมไม่เป็นครับ

 

  1. ผมไม่สามารถโกหกประชาชนได้

 

ครั้งนี้ผมจะลงเลือกตั้งรับสมัครเป็นส.ส.อีกครั้งหนึ่ง แต่ผมไม่สามารถลงเลือกตั้งกับพรรคก้าวไกลได้ เพราะถ้าผมชนะเลือกตั้ง มันก็เท่ากับผมโกหกประชาชน ผมพูดนโยบายที่ผมไม่เชื่อ ผมพูดถึงพรรคที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการจัดการ ผมจะพูดถึงพรรคได้เต็มปากได้อย่างไร

 

พรรคบอกว่า พรรคเป็นพรรคของประชาชน แต่ตอนนี้พรรคกำลังจะกลายเป็น “พรรคพวก” คนที่ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จำนวนหนึ่งกำลังได้เป็นต่อในสมัยหน้า หาก “โปลิตบูโร” ถูกใจ ยังงั้นหรือ? หากพรรคจะเป็นพรรคของประชาชนจริงๆ พรรคต้องกล้าทำตามข้อเสนอ set zero ของอ.ปิยบุตร พรรคต้องกล้าเปิดให้สมาชิกโหวตผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อทางตรงอย่างโปร่งใส เพื่อพิสูจน์กับประชาชน ว่านี่คือพรรคการเมืองสมาชิก เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ไม่ใช่พรรคการเมืองของโปลิตบูโร ไม่ใช่พรรคการเมืองของ “พรรคพวก”

 

ผมย้ำอีกครั้งว่า การที่ผมลาออกจากพรรคก้าวไกล ไม่ใช่เพราะผมโกรธ หรือ เกลียด หรือน้อยใจ แต่เป็นเพราะไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานของพรรค ผมยังภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันประเด็นสังคมที่ผมเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประชาธิปไตย หรือ เรื่องการเปิดใบอนุญาตสุรา ให้มาถึงจุดจุดนี้

 

แต่การลาออกของผมจะมีคุณูปการใดๆ ต่อการบริหารงานของพรรค หากพรรคไม่ปรับการบริหาร แทนที่พรรคก้าวไกลจะใหญ่ขึ้น พรรคจะเล็กลงเรื่อย ๆ จนเหลือแต่ “เลือดแท้” แต่การเหลือแต่เลือดแท้จะมีประโยชน์อย่างไร หากเลือดแท้นั้นมีจำนวนน้อย และไม่มีเสียงพอที่จะผลักวาระของพรรคให้สำเร็จผ่านระบบรัฐสภา

 

ตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ผมขอขอบคุณอาจารย์ปิยบุตรที่ชวนผมเข้ามาทำงานทางการเมือง แม้ว่าอาจารย์จะชิงลาออกตัดหน้าผมไปก่อนก็ตาม ผมขอขอบคุณพี่เอก คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้ให้โอกาสเป็นหัวหน้าคณะทำงานนโยบายเศรษฐกิจที่พรรคอนาคตใหม่ ผมขอขอบคุณ เพื่อนๆ ทั้งในในพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลและประชาชนที่ได้ร่วมเดินทางกันทุกๆ ท่าน

ถนนแห่งประชาธิปไตยไม่ได้มีทางเดียว

 

แล้วพบกันที่ปลายทาง

คริส โปตระนันทน์

8 กุมภาพันธ์ 2566

 

 

 

#TheStructureNews

#พรรคก้าวไกล #ดีแต่พูด #คริสโปตระนันท์

ที่มา: https://web.facebook.com/ChrisPotra/posts/pfbid02SBEdx28CTWni7YXJXiW6hX1MWmQD77LxK2wV1wXs2DGUmoBYmV1p5hhFTfJP93ezl

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า