ทำความรู้จักพรรคพรรคชาติไทยพัฒนาก่อนการเลือกตั้งปี 2566 ที่นำทัพโดย วราวุธ ศิลปอาชา

พรรคชาติไทยพัฒนา

Candidate นายกคนสำคัญ: วราวุธ ศิลปอาชา

.

ที่มา

สืบทอดมาจาก “พรรคชาติไทย” ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของไทย พรรคการเมืองที่มีฐานการเมืองหลักอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี ก่อตั้งโดย “กลุ่มซอยราชครู” ที่เป็นการรวมตัวกันของนายทหารและตำรวจที่มีอิทธิพลทางการเมืองในช่วงเวลาเกือบ 20 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2515 ไปจนถึง 2534  ก่อนที่ในยุคต่อมาจะเป็นนายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทที่สำคัญ

.

ต่อมาเมื่อพรรคชาติไทยได้ถูกยุบไปในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2551 พร้อมพรรคการเมืองอื่นที่เกี่ยวข้อง จากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีทุจริตการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2550 ส่งผลให้สมาชิกพรรคชาติไทยเดิมส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี ตัดสินใจย้ายสังกัดเข้าไปสู่ “พรรคชาติไทยพัฒนา” ที่มีการก่อตั้งขึ้นก่อนหน้านั้นแล้วในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2551 โดยมี กฤต รัตนคามินี, ชุมพล ศิลปอาชา, ธีระ วงศ์สมุทร และกัญจนา ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรคตามลำดับ สำหรับหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันคือนาย วราวุธ ศิลปะอาชา

.

จุดยืน

เมื่อครั้งยังเป็น “พรรคชาติไทย” มีการกล่าวว่าเป็นพรรค “อนุรักษนิยม” หรือ “ฝ่ายขวา” เนื่องจากถูกก่อตั้งโดยนายทหารและตำรวจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงให้หลังนับแต่การบริหารพรรคของบรรหาร ศิลปอาชา จนถึงปัจจุบันในนาม “พรรคชาติไทยพัฒนา” นั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่แนวคิด “ท้องถิ่นนิยม” (regionalism) ที่มีฐานเสียงหลักอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบรรหาร ศิลปะอาชา

.

สำหรับการดำเนินงานทางการเมืองของทางพรรคที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้พรรคมีภาพลักษณ์ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นพรรค ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นพรรค “กลาง-ขวา” (center-right) ที่เน้นหนักไปในประเด็นด้านการพัฒนา ด้านการเกษตร ด้านเศรษฐกิจ และด้านสิ่งแวดล้อม 

.

และแม้มีการแสดงออกถึงความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (พ.ศ. 2560) เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น “คนรุ่นใหม่”  แต่ก็ไม่มีการแสดงท่าทีที่ชัดเจนในการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นด้านโครงสร้างทางสังคมการเมืองและสถาบันหลักของชาติ

.

นโยบาย

นโยบายการหาเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนา พุ่งเป้าไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างชัดเจน ผ่านการพัฒนาพลังงาน-น้ำ-

เงินทุน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการประกอบธุรกิจการเกษตร อาชีพหลักของชาวชนบทท้องถิ่น ที่มีความน่าสนใจ

.

นอกจากนี้ นโยบายด้านสุขภาพของพรรค ถือได้ว่ามีความแปลกใหม่ และน่าสนใจมาก ภายใต้แนวคิดว่าการที่ ประชาชนมีสุขภาพที่ดีนั้น จะช่วยลดภาระด้านงบประมาณสาธารณสุขลงไปได้อย่างมาก อีกทั้งการมีสุขภาพดี ย่อมหมายถึงการมีศักยภาพในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ตนเอง ก่อประโยชน์ต่อประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคม นับได้ว่าน่าสนใจยิ่ง

.

ในอีกทาง นโยบายฟื้นฟูรัฐธรรมนูญปี 40 ในชื่อ “บรรหารโมเดล” นั้น อาจถูกมองได้ว่าเป็นการสร้างความทรงจำให้คนคิดถึงคุณบรรหาร ศิลปะอาชา ที่อาจตามมาด้วยการตั้งคำถามของสังคมว่า ดีกว่าฉบับล่าสุดอย่างไร หรือควรจะผสมผสานข้อดีข้อเสียของแต่ละฉบับได้อย่างไร