สรุปสถานการณ์ในเมียนมา กองทัพเมียนมารับศึกรอบด้าน สู้กองกำลังฝ่ายต่อต้านหลายฝ่าย
จำแนกตามพื้นที่ได้ดังนี้
รัฐยะไข่
กองทัพอาระกัน (AA) บุกโจมตีเมืองอานซึ่งเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของรัฐยะไข่ และเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการภาคทหารบกตะวันตกเมียนมาด้วยอาวุธหนัก ซึ่งทหารเมียนมา โดยกองพันเคลื่อนที่เร็ว 373 ซึ่งมีฐานที่มั่น ในเมืองอาน ได้ทำการตอบโต้ด้วยอาวุธหนักเช่นกัน
การปะทะกันในครั้งนี้ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เสียชีวิต 1 ราย อีกทั้งมีรายงานว่า กองทัพเมียนมาได้ทำการฝึกทางทหารให้แก่ชาวโรฮีนจาเสร็จสิ้นแล้วแหละ ได้เริ่มมี การส่งกำลังทหารชาวโรฮีนจา เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในกองกำลังส่วนหน้าบางส่วนแล้ว
ภาคพะโค
กองพันเคลื่อนที่เร็ว 439 จากเมืองกะยวุ๊ยตกวีง กับกองพันเคลื่อนที่เร็ว 351 จากเมืองเฉว่จี่น เข้าปะทะกับกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ยังไม่ทราบความเสียหาย
รัฐมอญ
กองกำลังต่อต้านรัฐบาลลอบวางระเบิดขบวนรถไฟลำเลียงยุทธปัจจัยของกองทัพเมียนมา ทำให้ทางการเมียนมาต้องปิดเส้นทางรถไฟสายเมืองตะโถ่ง (รัฐมอญ) – กรุงย่างกุ้งตั้งแต่ วันที่ 11 เม.ย.
อีกทั้งเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 ฝ่ายต่อต้านฯ ได้ใช้โดรนโจมตีทหารเมียนมา ที่เมืองเมาะละแหม่ง ส่งผลให้พลเอกอาวุโส โซวิน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาเสียชีวิต ในขณะที่นายพลอีก 6 นายได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ดี ไม่สามารถยืนยันได้ว่า ล.อ. อาวุโสโซวิน เสียชีวิตจริงหรือไม่
นอกจากนี้ขบวนรถขนทหารจำนวน 18 คัน ของทหารเมียนมาถูกซุ่มโจมตีโดยกองกำลังผสมฝ่ายต่อต้านฯ ที่เมืองเจ้าก์โถ่ ทำให้รถบรรทุกทหารเสียหาย 3 คัน ทหารบาดเจ็บ 3 นาย ไม่ทราบจำนวนผู้เสียชีวิต
รัฐฉาน
มีการปะทะกันระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังผสมของกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF) กองกำลังแห่งชาติปะโอ (PNLA) และกองกำลังปกป้องประชาชน (PDF) ในเขตเมืองโมเบีย เมืองสี่ส่าย เมืองโห่โปง และเมืองปิ่งลอง (รัฐฉานตอนใต้) บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 70%
รัฐกะฉิ่น
กองกำลังเอกราชกะฉิ่น (KIA) เข้ายึดครองฐานที่มั่นของฝ่ายเมียนมา ที่เมืองละแหว่แจ้ได้สำเร็จ สามารถยึดอาวุธและเงินสดซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 6 พันล้านบาทได้
รัฐกะเหรี่ยง
มีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นเป็นระลอก มีการเคลื่อนกำลังทหารเมียนมาพร้อมอาวุธมาจาก พล.ร. เบา 55 จากเมืองละแหม่งในรัฐมอญ มายังเมืองพะอัน จังหวัดเมียวดี (รัฐกะเหรี่ยง) อย่างต่อเนื่อง
ประชาชนในพื้นที่ยังคงมีความหวาดระแวง และกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์สู้รบครั้งใหญ่อีกครั้ง บางส่วนยังคงหลบซ่อนอยู่ตามป่าเขา เจ้าหน้าที่รัฐหยุดปฏิบัติงานชั่วคราวและร้านค้าส่วนใหญ่ได้ปิดการให้บริการ
อีกทั้งกองทัพปลดปล่อยชาวพม่า (BPLA) ได้จัดพิธีปิดการอบรมหลักสูตรทางทหารอีกด้วย