
บีโอไอ เร่งดันแพกเกจ EV-แบตฯ เข้า ครม. ให้ทันก่อนยุบสภาฯ
“บีโอไอ” เร่งสรุปแพ็กเกจ EV-แบตเตอรี่ เสนอเข้า ครม.พิจารณา 14 มี.ค.นี้ หวังให้ทันก่อนยุบสภาฯ แย้มบริษัทผู้ผลิตชิปป้อนรถ EV รายใหญ่จากสหรัฐฯ-ไต้หวันเตรียมลงทุนตั้งฐานผลิตในไทย
หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เผยว่า คาดว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 14 มี.ค. 66 จะมีการพิจารณาแพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ EV ก่อนที่รัฐบาลจะยุบสภาฯ
โดยจะมีการพิจารณาหลายประเด็น ทั้งเรื่องการอุดหนุนการผลิตแบตเตอรี่ EV และเงื่อนไขการขอขยายเวลาการผลิตรถ EV คืนมากกว่า 2 ปี สำหรับผู้ผลิตรายใหม่ได้หรือไม่ เนื่องจากเงื่อนไขได้กำหนดไว้ว่าผู้ประกอบการหรือค่ายรถที่เข้าร่วมต้องรับเงื่อนไข ได้แก่ ผลิตรถ EV ในประเทศชดเชยให้เท่ากับจำนวนที่นำเข้าช่วงปี 2565-2566 ภายในปี 2567 แต่จะขอขยายเวลาได้ถึงปี 2568 ซึ่งหากไม่สามารถเข้า ครม.ได้ทันจะทำให้เรื่องของนโยบายไม่สามารถทำต่อได้
“ขณะนี้ทีมงานและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กำลังเร่งพิจารณาจัดทำรายละเอียดต่างๆ อยู่ โดยคงจะไม่ทันเข้า ครม.วันที่ 7 มี.ค.นี้ แต่บอร์ดอีวีน่าจะเสนอได้ 14 มี.ค. ก่อนที่จะยุบสภาฯ ซึ่ง EV เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลผลักดัน โดยเฉพาะการเป็นฮับ EV ในภูมิภาคที่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับโลกมาใช้ไทยเป็นฐาน เช่น เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GMW) เอสเอไอซี มอเตอร์ (MG) บีวายดี ออโต้ (BYD) รวมถึงฟ็อกซ์คอนน์ที่ร่วมมือกับ ปตท. ฯลฯ และการตอบโจทย์เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050” หม่อมหลวงชโยทิตกล่าว
นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทผู้ผลิตชิปที่จะใช้ในอุตสาหกรรม EV จากไต้หวันและสหรัฐอเมริกาได้ตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุนตั้งฐานผลิตในไทยแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ จึงถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยก่อนหน้านี้จากการไปโรดโชว์ที่อเมริกาที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก เช่น Google, Western Digital, Analog Devices ล้วนมีแผนขยายการลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม นี่จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าไทยมีข้อดีมากกว่าคู่แข่ง