“ไร้มนุษยธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชน”‘กอ.รมน.’ ประณามคนร้ายลอบวางระเบิดทหารพรานที่ นราธิวาสซึ่งกำลังซ่อมแซมบ้านเรือนให้ประชาชนผู้ยากจน ในชายแดนใต้เจ้าของบ้านเป็นแม่หม้าย ยากจน ลูกพิการ ไร้ที่พึ่งพิง
สืบเนื่องจากเหตุคนร้ายวางระเบิดสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ซ่อมแซมบ้านเรือนให้ประชาชนที่บ้านตะโล๊ะ หมู่ที่ 2 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ (17 ส.ค. 66) จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 4 นาย
บ้านหลังที่เป็นจุดเกิดเหตุ เป็นของ น.ส.ซารีผ๊ะ ยักมิง อายุ 47 ปี ซึ่งมีฐานะยากจน และสามีเป็นทหารที่เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่จากเหตุการณ์ความไม่สงบ มีลูก 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีความพิการ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
วันนี้ พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาคในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงว่า บ้านที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างการก่อสร้างตามโครงการซ่อมบ้างปันสุข โดยหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ซึ่งโครงการนี้มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่พี่น้องประชาชนซึ่งมีฐานะยากจน ไร้ที่อยู่อาศัย หรือมีที่อยู่อาศัยแต่ทรุดโทรม ยากที่จะอยู่อาศัยได้ตามสภาวะปกติ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
การกระทำของผู้ก่อเหตุ เห็นได้ว่ามุ่งประสงค์ต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ โดยไม่คำนึงถึงว่ากำลังปฏิบัติภารกิจอะไร และทำเพื่อใคร ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นได้เสียสละทุ่มเทแรงกาย แรงใจ สร้างบ้าน สร้างคุณประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน แต่กลับต้องเสียชีวิตจากการวางระเบิดจนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
นับว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไร้มนุษยธรรม ไม่คำนึงถึงหลักการอันดีงามของศาสนาและความสุขของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะต่อพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ ซึ่งมีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ รวมทั้งมีบุตรพิการที่ต้องดูแล
แรงจูงใจในการก่อเหตุ คาดว่าเจ้าหน้าที่ได้รับความไว้วางใจและได้รับการสนับสนุนจากประชาชน จึงวางระเบิดสร้างความสูญเสียให้ประชาชนหวาดกลัว ไม่กล้าให้การสนับสนุนและติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเพื่อเป็นประโยชน์ในการสนับสนุนกลุ่มขบวนการต่อไปในอนาคต
สำหรับกำลังพลที่เสียชีวิต คือ อาสาสมัครทหารพรานอุดมศักดิ์ เราตะพงษ์ ทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. จะจัดพิธีรดน้ำศพที่วัดสุวรรณากร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในวันที่ 18 ส.ค.66 เวลา 10.00 น. โดยมีแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธาน และจะส่งศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นภูมิลำเนาต่อไป ซึ่งทางกองทัพจะเร่งรัดดำเนินการด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสียและได้รับบาดเจ็บ อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และรวดเร็วที่สุด