AMD เปิดตัวชิป AI ตัวใหม่ ที่ใช้เร่งความเร็วให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ เพื่อแข่งขันกับเจ้าตลาดอย่าง Nvidia

บริษัท แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (AMD) ผู้ผลิตชิปชั้นนำของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันอังคาร (13 มิ.ย.) ว่าบริษัทจะเริ่มจัดส่งชิป ‘MI300X’ ซึ่งเป็นชิปประมวลผลกราฟฟิก (GPU) สำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ล้ำหน้าที่สุดของ AMD ให้กับลูกค้าบางรายในปลายปีนี้ 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การประกาศของ AMD นับเป็นการท้าชนครั้งใหญ่ที่สุดกับ ‘อินวิเดีย’ (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ที่ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดชิปปัญญาประดิษฐ์มากกว่า 80% 

โดย GPU เป็นชิปที่บริษัทต่างๆ อย่าง OpenAI ใช้เพื่อสร้างโปรแกรม AI ที่ล้ำสมัย เช่น ChatGPT หากชิป AI ของ AMD ซึ่งเรียกว่า ‘ตัวเร่งความเร็ว’ ได้รับการยอมรับจากนักพัฒนาและผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์เพื่อใช้แทนผลิตภัณฑ์ของ Nvidia ก็จะถือเป็นการเจาะกลุ่มตลาดใหม่ครั้งสำคัญสำหรับ AMD ซึ่งมีชื่อเสียงด้านหน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU สำหรับคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิม

ลิซ่า ซู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ AMD กล่าวกับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในซานฟรานซิสโกเมื่อวันอังคาร (13 มิ.ย.) ว่า “AI เป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่สุดในการเติบโตเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวของบริษัท”

“เราคาดการณ์ว่าตลาดตัวเร่งความเร็ว AI จะเติบโตจากประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.04 ล้านล้านบาท) ในปีนี้ ที่อัตราการเติบโตต่อปีมากกว่า 50% เป็น 150,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.2 ล้านล้านบาท) ในปี 2560”

ทั้งนี้ แม้ว่า AMD ไม่ได้เปิดเผยราคา GPU แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจสร้างแรงกดดันด้านราคาให้กับ GPU รุ่น H100 ของ Nvidia ซึ่งอาจมีราคาสูงถึง 30,000 ดอลลาร์ (ราว 1.04 ล้านบาท) หรือมากกว่านั้น โดยราคา GPU ที่ลดลงอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนที่สูงในการให้บริการแอปพลิเคชัน generative AI

ปัจจุบันชิป AI เป็นที่หมายตาของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ในขณะที่ยอดขาย PC ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายชิปเซมิคอนดักเตอร์หน่วยประมวลผลกลางแบบดั้งเดิมกลับตกต่ำลง

MI300X สามารถใช้หน่วยความจำได้สูงสุด 192GB ซึ่งหมายความว่าสามารถใส่โมเดล AI ที่ใหญ่กว่าชิปอื่นๆ ได้ ตัวอย่างเช่น ชิป GPU รุ่น H100 ของคู่แข่งอย่าง Nvidia รองรับหน่วยความจำ 120GB เท่านั้น

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักพัฒนา AI เลือกใช้ชิปของ Nvidia ในอดีต เนื่องจากมีชุดซอฟต์แวร์ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีที่เรียกว่า ‘CUDA’ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงคุณสมบัติฮาร์ดแวร์หลักของชิปได้

อย่างไรก็ดี AMD กล่าวเมื่อวันอังคาร (13 มิ.ย.) ว่าบริษัทมีซอฟต์แวร์ของตัวเองสำหรับชิป AI ที่เรียกว่า ‘ROCm’

(1 ดอลลาร์ = 34.66 บาท)