News24 มิถุนา เวียนบรรจบครบ 90 ปี คนไทยยังมีความสุขดีกับสถาบันอยู่หรือไม่? ผลงานของผู้ว่า กทม คนใหม่ ตลอด 1 เดือน เปลี่ยนแปลงอะไร/ รัฐบาลไทย รับมืออย่างไร จากวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน

24 มิถุนา เวียนบรรจบครบ 90 ปี คนไทยยังมีความสุขดีกับสถาบันอยู่หรือไม่? ผลงานของผู้ว่า กทม คนใหม่ ตลอด 1 เดือน เปลี่ยนแปลงอะไร/ รัฐบาลไทย รับมืออย่างไร จากวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน

สัปดาห์ที่ผ่านมาคนไทยคงเห็นปรากฏการณ์บางอย่างของการรำลึก 24 มิถุนายน วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง วันแห่งประชาธิปไตย วันอภิวัฒน์การปกครอง วันคณะราษฎร์ แล้วแต่จะเรียกกัน

มีการจัดงานที่ลานคนเมืองโดยคนหลายกลุ่ม มีคนชื่อโตโต้ จำไม่ได้ว่าเป็นแกนนำกลุ่มอะไรสักกลุ่มที่ชอบสร้างความรุนแรงแล้วถูกดำเนินคดี คนนี้ออกแรงชักชวนผู้คนให้มาเฉลิมฉลอง มีพรรคพวกประโคมข่าวบอกว่าเป็นวันสำคัญแห่งการเรียกร้องประชาธิปไตย ยุติระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ซึ่งคนไทยเป็นแสนเป็นล้านสนับสนุน เลยมิอาจอยู่นิ่งเฉยได้ ต้องออกไปร่วมชม ผู้คนเรือนแสนที่จะออกมาร่วมเฉลิมฉลองด้วย

 

แต่ไปแล้ว ดูด้วยตา ผู้คนในลานคนเมืองมีไม่เกิน 400 คน นับอย่างไรก็ไม่เกิน เป็นคนหนุ่มสาว เยาวชน เสียส่วนใหญ่ มีกิจกรรมให้สนุกสนานตามวัย และตามที่บ่มเพาะความคิดกันมา มีคนวัยกลางคนบ้างสังเกตดูก็พอเดาได้ว่ามาจากไหนอย่างไร

 

ระหว่างนั่งดูนั่งพูดคุยกับหลายคนในลานคนเมือง เกิดคำถามในใจว่า คนไทยส่วนใหญ่ รู้สึกอย่างไรกับเหตุเมื่อ 24 มิถุนายน 2475 หรือเมื่อ 90 ปีมาแล้ว

 

แล้วรู้สึกอย่างไรกับชีวิตปัจจุบันในปี 2565 และปีต่อๆ ไปที่มีคนบอกว่าภารกิจ 24 มิถุนายน 2475 ยังไม่เสร็จสิ้น ประเทศไทยของเรายังไม่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ สถาบันพระมหากษัตริย์ยังไม่ได้ถูกปฏิรูป หรือเรายังถูกปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่

 

คงไม่สามารถคุยกับคนไทยส่วนใหญ่ได้ครบถ้วนหรือ มากพอที่จะสรุปเป็นคำตอบ แต่ถ้ามองจากปรากฏการณ์ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว กำลังขับเคลื่อน หวังผล โดยคนกลุ่มหนึ่ง เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัย นักการเมือง นักศึกษาเยาวชน ทำกันมาตั้งแต่ปี 2562 ไม่หยุดคิดหยุดทำแม้แต่วันเดียว

 

เราก็ยังไม่ได้เห็นคนไทยส่วนใหญ่เป็นแสนเป็นล้านคนออกมา เรียกร้องให้คนไทยทำภารกิจ 24 มิถุนายนให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ คนไทยนับล้านๆ คนรู้สึกเป็นเดือด เป็นแค้น หรือรู้สึกเดือดร้อนกับชีวิตในวันนี้ที่คนพวกนั้นกำลังเป่าหูว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องไล่ รัฐบาล ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ คนไทยทั้งมวลจะได้มีความสุข ประเทศมีประชาธิปไตยกัน เสียที

 

หรือจริงๆ แล้วคนพวกนี้กำลังพาประเทศดิ่งลงเหว พาคนไทยไปสู้เส้นทางแห่งความหายนะ ถึงเวลาที่คนไทยต้องคิดกันให้มากขึ้นแล้ว

 

เรื่องคนเป็นแสนเป็นล้าน หรือคนเป็นร้อย ทำให้คิดต่อไปได้เหมือนกันว่าจำนวนคนใน โลกจริงกับโลกไม่จริงเนี่ย ความจริงมันคืออะไร ตัวเลขจำนวนที่เรียกกันว่าทัวร์ลงมีนัยอะไรที่ บ่งบอกถึงความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมได้หรือไม่ มันแตกต่างกันอย่างไรระหว่างตัวเลขในโลกจริงกับโลกไม่จริง

 

วันนี้ในโลกไม่จริงกำลังรณรงค์แบนเตาบิน เลิกซื้อ เลิกใช้ เหมือนเคยไปแบน 7-11 ไปนั่งขวางไม่ให้คนซื้อของได้สะดวก มีการอ้างตัวเลขเป็นหมื่นเป็นแสนที่จะเลิกใช้บริการตู้เต่าบิน เพราะตระกูลนักการเมืองดังเข้าไปถือหุ้นของตู้เต่าบินด้วย

 

เรื่องนี้จะจบอย่างไร ตู้เต่าบินจะเจ๊ง ปิดกิจการ เลิกธุรกิจ หรือสุดท้ายเหมือน 711 คนแน่นตรึมเหมือนเดิม แล้วมันยังไงล่ะนี่

 

สังคมนี้ สรุปว่าไม่ชอบใจอะไร ไม่เห็นด้วยกับสิ่งใด อาศัยโซเชียลไปทำลายเขา พาทัวร์ไปลง มันยุติธรรม เป็นธรรมต่อการอยู่ร่วมกันในสังคมหรือเปล่า เรื่องนี้ก็น่าคิดเช่นกัน ดังนั้นที่ชอบอ้างคนไทยทั้ง ประเทศ คนไทยส่วนใหญ่ ต้องพึงสังวรว่ามันใช่หรือเปล่า

 

 

ตอนนี้ครบ 1 เดือนที่คุณชัชชาติเป็นผู้ว่า กทม. ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงหรือ Change เกิดขึ้นใน กทม. อย่างน้อยก็ได้เห็นคุณชัชชาติไลฟ์สดผ่านสื่อออนไลน์เกือบทุกวัน คุณอัศวินไม่เคยทำแบบนี้

 

คนกรุงเทพบางส่วนตั้งวงเสวนาคุยกันเรื่องคุณชัชชาติ ความหวังใหม่ของคน กทม. ชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม ครบ 1 เดือนวงเสวนามีข้อสรุปว่า ได้เห็น Change จริง แต่การเปลี่ยนแปลงที่เห็นคือการเปลี่ยนแปลงที่ตัวผู้ว่า กทม. ได้คนใหม่ ได้วิธีการทำงานแบบใหม่ ได้เห็นวิธีการประชาสัมพันธ์แบบใหม่ แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของคน กทม. ยังเหมือนเดิม ต้องให้เวลาเพราะเพิ่งผ่านไปแค่ 1 เดือนเท่านั้น

 

วงเสวนายังมองอย่างพินิจพิเคราะห์อิงหลักวิชาการการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ของ คุณชัชชาติ ได้คำตอบว่า ได้เห็นแค่ผลผลิต ยังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์

 

ที่คุณชัชชาติทำงานมา 1 เดือน คุณชัชชาติมีผลผลิตหลักคือ ผลิตคลิปการทำงานของตัวเอง ผลิตภาพคนติดดิน ไม่เจ้ายศเจ้าอย่าง พูดภาษาอังกฤษเก่ง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ปัญหามีที่ไหนไปถึงอย่างรวดเร็วที่นั่น คนชื่นชมเป็น แสนๆ คน แต่ชื่นชมตัวคุณชัชชาตินะ ยังไม่ได้ชื่นชมผลงานที่คุณชัชชาติทำจนเกิดผลสัมฤทธิ์

 

ความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของคนกรุงเทพ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาด ขยะไม่ถูกทิ้งไว้ ข้างถนน บาทวิถีถูกมอบคืนให้กับประชาชนคนเดินถนน การจัดระเบียบชุมชนที่อยู่อาศัย การรุกล้ำ ที่สาธารณะได้รับการแก้ไข รถไฟฟ้าราคาถูกและเชื่อมต่อถึงกัน นำสายไฟฟ้าลงดิน คลองสะอาด บ้านเรือนริมคลองได้รับการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมจากที่คนเก่าทำมา

 

ฝนตกน้ำท่วมน้ำขังไม่ว่ากัน ขอให้น้ำลดอย่างรวดเร็วก็พอใจแล้ว รถติดไม่เป็นไรเพราะคงแก้ไม่ได้ แต่การสร้างวินัยให้คนใช้รถ ใช้ถนนต้องทำให้เห็น โรงเรียนสังกัด กทม.มีคุณภาพดีขึ้น ฯลฯ เหล่านี้เป็นผลสัมฤทธิ์ที่คุณชัชชาติ ต้องทำให้เกิดขึ้น

 

วันนี้ผู้ว่าคนเก่าเขาทำมาแล้ว สานต่ออย่างไร ปรับปรุงให้ดียิ่งกว่าอย่างไร ต้องเร่ง ทำจากนี้ต่อไปแล้ว การพิสูจน์ฝีมือนักบริหารที่เก่งและดี อยู่ที่ผลสัมฤทธิ์ของการทำงาน ไม่ใช่อยู่ที่ ผลผลิตของการส่งเสริมภาพลักษณ์ของตนเอง วงเสวนาสรุปว่าตำหนิคุณชัชชาติไม่ได้ เพราะเพิ่ง เข้ามาบริหารได้เดือนเดียว ต้องให้เวลา

 

         

ที่ต้องจับจ้องมองแบบไม่กะพริบตาอีกเรื่องหนึ่งคือสงครามรัสเซียยูเครนว่ารัสเซียจะขยายแนวรบไปประเทศลิทัวเนียที่เปรียบเสมือนเป็นประเทศหน้าด่านของกลุ่มนาโตหรือไม่ เป็นการตอบโต้ที่ลิทัวเนียปิดเส้นทางขนส่งสินค้าไปเมืองชายแดนคาลินินกราดของรัสเซีย

 

ถ้าเขตสงครามขยายจริงผลที่ตามมาคือราคาน้ำมันตลาดโลกจะพุ่งทะยานขึันไปอีก แล้วไทยที่นำเข้าน้ำมันเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ในภาวะที่เงินบาทอ่อนค่าจะทำอย่างไร

 

แม้จะมีข่าวดีจากรัฐบาลที่ออกมาตรการมาเพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชนกลุ่มเปราะบางทางอ้อมทั้งตรึงราคาก๊าซหุงต้มให้ร้านค้า ตรึงราคาแก๊สให้กลุ่มแท็กซี่ ชดเชยดีเซลส่วนหนึ่งให้กลุ่มรถขนส่ง ช่วยค่าน้ำมันให้วินมอเตอร์ไซค์ ขอให้โรงกลั่นน้ำมันส่งเงินช่วยพยุงกองทุนน้ำมันแล้วก็ตาม

 

มาตรการเหล่านี้จะช่วยประคองความเดือดร้อนได้ชั่วคราวจนถึง ก.ย.65 เท่านั้น คนไทยต้องไม่ประมาทช่วยกันประหยัดพลังงานไว้ก่อนจะดีกว่า

 

แต่ไทยยังดีกว่าหลายประเทศในอาเซียนที่ใช้น้ำมันแพงกว่าเราและบางประเทศจะไม่มีน้ำมันให้ใช้แล้ว และยังดีกว่าหลายประเทศในยุโรปที่ตกอยู่ในสภาพ “ข้าวยากหมากแพง” ต้องยอมอดมื้อกินมื้อ เช่น อังกฤษ กรีซ เบลเยี่ยม อิตาลี ที่ประชาชนเริ่มออกมาประท้วง หยุดงาน หยุดการขนส่ง แบ่งปันน้ำมัน และอาจลุกลามไปอีกหลายประเทศ

 

เพราะทั่วโลกได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบไหน ต้องคอยดูต่อไปว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านจะเสนอมาตรการใหม่ๆ ที่ดูดีกว่ารัฐบาลทำแล้วหรือไม่ หรือแค่ใช้เป็นเวทีประดิษฐ์วาทะกรรมสร้างดราม่าทางการเมืองโดยที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรอีกเช่นเคย

 

โดย แกงส้ม

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า