“นักลงทุนต่างชาติ” เข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ปี 65 เข้ามา 530 ราย นำเงินเข้ากว่า 112,466 ล้านบาท ญี่ปุ่นนำโด่ง ตามด้วยสิงคโปร์ สหรัฐฯ ฮ่องกง และจีน
11 เดือน ต่างชาติลงทุนไทย 530 ราย นำเงินเข้า 1.12 แสนล้าน จ้างงาน 5,008 คน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ในช่วง 11 เดือน ปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.) จำนวน 530 ราย เพิ่มขึ้น 30% แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 198 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 332 ราย มีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 112,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74%
จ้างงานคนไทย 5,008 คน เพิ่มขึ้น 0.1% โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 137 ราย ร้อยละ 26 เงินลงทุน 39,000 ล้านบาท สิงคโปร์ 85 ราย ร้อยละ 16 เงินลงทุน 11,999 ล้านบาท สหรัฐฯ 70 ราย ร้อยละ 13 เงินลงทุน 3,343 ล้านบาท ฮ่องกง 38 ราย ร้อยละ 7 เงินลงทุน 8,451 ล้านบาท และ จีน 25 ราย ร้อยละ 5 เงินลงทุน 22,677 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในช่วง 11 เดือน ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เช่น บริการออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้ง และตรวจสอบระบบกักเก็บพลังงาน สำหรับโครงการโรงผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานสำหรับสนามบินอู่ตะเภา , บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย , บริการขุดลอก ถมทะเล และก่อสร้างม่านดักตะกอนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด , บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Electric Vehicle Charging Station) สำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคแบบครบวงจรในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ การช่วยเหลือด้านการออกแบบ การพัฒนา และทดสอบระบบ เป็นต้น , บริการศูนย์กระจายสินค้าระหว่างประเทศด้วยระบบที่ทันสมัย และบริการพัฒนาและให้บริการซอฟต์แวร์ด้านวิเคราะห์และเชื่อมโยงเพื่อบริหารจัดการข้อมูล Big Data, Data Analytics
ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วง 11 เดือน มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 105 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด มีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 48,316 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43 ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 42 ราย เงินลงทุน 24,520 ล้านบาท จีน 9 ราย เงินลงทุน 10,956 ล้านบาท และ สิงคโปร์ 9 ราย เงินลงทุน 2,156 ล้านบาท
ธุรกิจที่ลงทุน เช่น บริการศูนย์กระจายสินค้าระหว่างประเทศด้วยระบบที่ทันสมัย บริการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการควบคุมการผลิตในโรงงาน และระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชัน การอัพเกรดซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เป็นต้น
“คาดว่าช่วงเดือนธ.ค.2565 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปี 2565 จะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการที่ภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่อนคลายให้มีการเปิดประเทศ และเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น” นายสินิตย์กล่าว
ยาดมสมุนไพรไทย Soft Power ที่ต่างชาติไม่อาจเลียนแบบได้โดยง่าย ผ่านการพิสูจน์แล้วทั้งจาก ลิซ่า, แจ๊คสัน และซี
นายกฯ กำชับแก้ปัญหาหลอกลวงลงทุนออนไลน์ แนะ ปชช. ตรวจสอบและแจ้งเบาะแส ผ่านแอป ‘SEC Check First’
‘คมนาคม’ เตรียมชง โครงการรถไฟรางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. 14 สถานี 3 ลานคอนเทนเนอร์ วงเงิน 2.9 หมื่นล้าน กำหนดเสร็จปี 70
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม