พุ่งเป็นประวัติการณ์เกือบแสนล้าน ! การค้าชายแดนผ่านสามเหลี่ยมทองคำปี 65 เชียงราย-เมียนมา-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ โตต่อเนื่อง

การค้าชายแดนเชียงรายผ่านสามเหลี่ยมทองคำรอบปี 65 พุ่งเป็นประวัติการณ์เกือบแสนล้าน หลังเพื่อนบ้านแห่สร้างเมืองติดพรมแดน-ทุนจีนทะลัก หนีนโยบายห้ามสร้างกาสิโน คาดไทย-พม่าเปิดด่านฯ วันไหนยอดเพิ่มอีก 2-3 เท่าตัวเป็นอย่างต่ำ

สำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย แจ้งว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. 2565 การค้าชายแดนด้านเชียงราย กับเมียนมา สปป.ลาว และจีนตอนใต้ ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง 3 ประเทศ มีการค้าระหว่างกันสูงถึง 88,936.87 ล้านบาท

โดยการค้ากับเมียนมาผ่านด่านศุลกากรแม่สาย มีมูลค่ารวม 22,827.60 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 6,065.96 ล้านบาท หรือ 36.19% แยกเป็นการส่งออก 21,394.24 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง 35.46% เครื่องจักรและอุปกรณ์ 19.92% สุรา ไวน์ เบียร์ 10.62%, นำเข้า 1,433.36 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเศษเหล็ก 34.77% สินแร่ทองแดง 18.26% เศษทองแดง 13.61%

ส่วนการค้ากับ สปป.ลาว มีมูลค่ารวม 9,612.18 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 4,960.45 ล้านบาทหรือ 106.64% แยกเป็นการส่งออก 9,267.87 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นข้าวสาร 26.25% น้ำมันดีเซลและเบนซิน 24.14% สินค้าอุปโภคบริโภค 22.43% และนำเข้ามูลค่า 344.31 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นถ่านหินลิกไนต์ 77.63% อุปกรณ์ตกปลา 10.03% สินค้าเกษตร 5.41%

ขณะที่การค้ากับมณฑลยูนนาน (จีนตอนใต้) ถือว่ามีมูลค่ามากที่สุดถึง 56,497.09 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 17,619.91 ล้านบาท หรือ 45.32% แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 40,289.54 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลไม้ 94.76% สินค้าอุปโภคบริโภค 2.50% เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ 0.98% และนำเข้ามูลค่า 16,207.55 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลไม้สด 73.43% พืชผักสด 19,89% ดอกไม้และไม้ประดับ 4.09% เฉพาะเดือน พ.ย.เพียงเดือนเดียวมีมูลค่าการค้าเกิดขึ้นถึง 5,280.76 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 3,219.90 ล้านบาท นำเข้า 2,060.86 ล้านบาท

น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า อ.แม่สาย เปิดเผยว่า การค้าชายแดนด้านเชียงรายปีนี้ถือว่าพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าชายแดนด้านไทย-เมียนมาจะยังคงปิดไม่ให้มีการเดินทางเข้าออกตลอดแนวแต่ก็มีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ที่เปิดเพื่อการขนส่งสินค้า ส่วนด้าน สปป.ลาว มีการเปิดตลอดแนวในทุกจุดรวมทั้งทางเรือแม่น้ำโขงถึงท่าเรือกวนเหล่ยของจีน

สาเหตุที่การค้าย่านนี้เติบโตขึ้น เกิดจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งฝั่งเมียนมาและ สปป.ลาว กำลังมีการก่อสร้างเมือง-พัฒนาอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมต่างๆ ขนานใหญ่ทั้งใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย และเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำในเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ติดกับ อ.เชียงแสน ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้สินค้าเพื่อการก่อสร้างและอุปโภคบริโภค

นอกจากนี้ ทางการจีนยังมีนโยบายไม่ให้มีกาสิโนติดกับชายแดน ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการหันมาลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านติดชายแดนไทยมากขึ้น รวมทั้งมีชุมชนชาวจีนที่ทะลักลงมาอาศัยอยู่ในเขตดังกล่าวด้วย

สถานการณ์นี้ยังเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการเติบโตเท่านั้น เพราะหากมีการเปิดพรมแดนระหว่างไทย-เมียนมา จะทำให้มูลค่าการค้าชายแดนที่แท้จริงเพิ่มขึ้นอีกกว่า 2-3 เท่าตัว ซึ่งจะอยู่ในรูปของการค้าปลีก ร้านค้า การท่องเที่ยว การรักษาพยาบาล การใช้บริการอื่นๆ ฯลฯ โดยเฉพาะชาวจีนและคนในประเทศเมียนมาอยากจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหลังจากที่ปิดพรมแดนมาตั้งแต่ต้นปี 2563 หรือกว่า 3 ปีแล้ว นอกจากนี้ การขนส่งสินค้าระหว่างไทย-จีน ผ่านประเทศเมียนมายังมีต้นทุนที่ถูกกว่า และไปได้หลากหลายเส้นทางทั้งทางด่านเมืองรุ่ยลี่-มูเซ, เมืองลา, เรือแม่น้ำโขง ฯลฯ ด้วย