โอกาสดีแก้วิกฤตราคาพลังงานในเอเชีย รัสเซียพุ่งเป้าค้าน้ำใน “ตลาดเอเชีย” เพื่อหลีกเลี่ยงการค้ากับชาติตะวันตกหลังถูกคว่ำบาตรอย่างหนัก
Dan Yergin รองประธาน S&P Global ผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเงิน และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ออกมาวิเคราะห์ในรายการ Street Signs Asia ของ CNBC เมื่อวันจันทร์ (28 มี.ค.) ว่า “ดูเหมือนว่าเอเชียจะกลายมาเป็นตลาดหลักของน้ำมันรัสเซียแทนที่ยุโรป”
ประเทศตะวันตกได้มีการใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจกับรัสเซียโทษฐานบุกรุกยูเครน โดยสหรัฐฯ ได้แบนน้ำมันดิบรัสเซีย ส่วนอังกฤษ และสหภาพยุโรปเองก็กำลังพิจารณาใช้มาตรการเดียวกัน
การคว่ำบาตรดังกล่าว ส่งผลให้รัสเซียมีน้ำมันดิบที่ขายยากในคลังมากเกิน และสถานการณ์ก็ส่อแววจะเลวร้ายลงไปมากกว่านี้ นักวิเคราะห์กล่าว
IEA กล่าวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า น้ำมันดิบรัสเซียกำลังถูกขายในราคาที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยบริษัทผู้ค้าสินค้าโภคภัณฑ์ 2 แห่งได้เสนอส่วนลดน้ำมัน Urals ไว้ที่ 25 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
อีกด้านหนึ่ง ราคาน้ำมันดิบส่งออกของประเทศอื่น ๆ กลับพุ่งสูงสุดในรอบทศวรรษ โดยราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นประมาณ 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน และราคาน้ำมันมีความผันผวนตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนได้เริ่มขึ้น
ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ในเอเชีย เช่น จีน และ อินเดีย ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้จีนและอินเดียมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับรัสเซียเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับน้ำมันราคาถูกของรัสเซียที่ยิ่งน่าดึงดูด ยิ่งทำให้รัสเซียเนื้อหอม
ตัวอย่างเช่น อินเดีย ที่เดิมนำเข้าน้ำมันจากอิรัก ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไนจีเรีย แต่เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ความต้องการน้ำมันรัสเซียที่ราคาถูกกว่าเพิ่มสูงขึ้นในอินเดีย
ความต้องการน้ำมันรัสเซียในอินเดียเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนอุบัติขึ้น และอินเดียยังมีแผนเตรียมซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้อินเดียนำเข้าน้ำมันราว 85% ของน้ำมันที่ใช้ในประเทศ ดังนั้นราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจอินเดีย
“อินเดียได้เจรจาขอซื้อน้ำมันจากรัสเซียในราคาที่ถูก แต่ในการขนส่งน้ำมัน 100 ล้านบาร์เรลต่อวันไปทั่วโลกไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นธุรกรรมดังกล่าวจะไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน” Dan Yergin กล่าว