‘ตำรวจตระเวนชายแดน’ ผู้ปิดทองหลังพระ ที่เป็นทั้ง ตำรวจ ครู แพทย์ พยาบาล และทหารของประชาชน
จากกรณี ส.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล พรรคก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งพาดพิงถึงงบประมาณของตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และอภิปรายให้ลดงบประมาณและบทบาทของหน่วยงาน ตชด. เพราะภารกิจลดลงจนแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว
เราจะมาดูกันว่า บทบาทหน้าที่ของ ตชด.ลดลงจนแทบไม่เหลืออะไร ดังที่ ส.ส.ก้าวไกล ว่ามาหรือไม่?
เบื้องต้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าทำไมต้องเป็น “ตำรวจตระเวนชายแดน” ทั้งนี้เป็นเพราะสนธิสัญญาเมืองเจนีวาที่ฝรั่งเศสทำกับไทยในอดีต ระบุว่าห้ามมีทหารอยู่ในแนวชายแดนไทย-ลาว-กัมพูชา ในระยะ 25 กิโลเมตร
แต่ปัญหาคือ ประเทศไทยประสบปัญหาตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภัยผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ทางภาคเหนือ อีสานและภาคใต้ รวมไปถึงขบวนการค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน ลักลอบตัดไม้เถื่อน ลักลอบนำแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ ฯ
ปัญหาเหล่านี้ทำให้ต้องมีกองกำลังติดอาวุธเพื่อสู้รบกับผู้ก่อความไม่สงบต่างๆ แต่ด้วยความที่ไม่อาจมีกองทหารในระยะ 25 กม.ได้ จึงต้องมีการจัดตั้ง ตำรวจตระเวนชายแดนขึ้นมาในปี พ.ศ. 2494
โดยหน้าที่ของ ตชด.ตามที่ได้ระบุไว้มี 3 ประการ
- สามารถทำการรบได้อย่างทหาร
- สามารถป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมได้อย่างตำรวจ
- สามารถให้บริการแทนกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ได้อย่างพลเรือน
และข้อ 3 นี้สำคัญไม่แพ้ข้อ 1 และ 2 เนื่องจากพื้นที่ตามแนวชายแดน มีความไม่สงบแบบในเมือง หลายครั้งความเป็นป่าเขา มีโจรผู้ร้ายเยอะ ทำให้ไม่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ หน่วยพัฒนา กล้าไปทำงานในพื้นที่ ตชด.จึงต้องทำหน้าที่ในพื้นที่เปราะบางเหล่านั้นแทน
จึงไม่แปลกที่ในเวลากลางวัน เราจะเห็น ตชด.ทำหน้าที่เป็นทั้งครู แพทย์ พยาบาล ให้กับชาวเขาหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ตามแนวชายแดน แต่พอตกกลางคืนพวกเขาก็ต้องถือปืนลาดตระเวน ป้องกันโจรผู้ร้าย ขบวนการขนยาเสพติด หรือผู้บ่อนทำลายแนวชายแดน
หน้าที่ของ ตชด.นั้นเป็นทั้งตำรวจ ทหาร นักพัฒนา ครู แพทย์-พยาบาล ไปในเวลาเดียวกัน จนถึงขั้นที่ว่าหากไปสัมภาษณ์ชาวเขา ทั้งผู้ปกครองและเด็กๆ จะพบว่าพวกเขารัก ตชด.มากกว่าครูที่ถูกส่งมาจากส่วนกลางเสียอีก
หากกลุ่มคนที่เสียสละปกป้องชายแดนไทยอย่างไม่เคยหยุดพักทุกวันเหล่านี้ จะต้องถูกโจมตีจากฝ่ายการเมืองว่า “แทบไม่เหลือภารกิจอะไรแล้ว” และขอให้ลดงบประมาณในการทำงานของพวกเขาลง ก็คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจไม่น้อยเลยทีเดียว…
โดย กิตติธัช ชัยประสิทธิ์
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม