เปิดประวัติ อาเบะ นายกฯ ที่ครองตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
เปิดประวัติ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
นายชินโซ อาเบะ เกิดเมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2497) เป็นนักการเมืองชาวญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนที่ 57 และหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ตั้งแต่ปี 2555 ถึง 2563 และก่อนหน้านั้นระหว่างปี 2549 ถึง 2550 เขายังเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีระหว่างปี 2548 ถึง 2549 นับเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ครองตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
ชินโซ อาเบะ มีฉายาว่า “เจ้าชาย” เขามาจากตระกูลใหญ่ทางการเมืองในฐานะบุตรชายของนายชินทาโร อาเบะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และหลานชายของนายกรัฐมนตรีโนบุสึเกะ กิชิ
นายอาเบะ อายุ 65 ปี ได้รับเลือกตั้งเข้าสภาครั้งแรกในปี 1993 และในปี 2005 เขาได้เข้าร่วมในคณะรัฐมนตรี หลังจากนายกรัฐมนตรีจุนอิชิโร โคอิซุมิ ได้แต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
การทะยานขึ้นสู่อำนาจของเขาทำได้สำเร็จในปี 2006 เมื่อเขาได้กลายเป็นนายกรัฐมนตรีในยุคหลังสงครามที่อายุน้อยที่สุดของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม เรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นหลายเรื่อง รวมถึงการสูญหายของบันทึกการจ่ายบำนาญของรัฐบาล ส่งผลกระทบต่อคำขอเงินบำนาญ 50 ล้านคำขอ ได้ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลของเขา
การพ่ายแพ้ครั้งใหญ่สำหรับพรรคแอลดีพี เกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในปี 2007 และเขาได้ลาออกจากตำแหน่งในเดือน ก.ย. ปีเดียวกัน ด้วยเหตุผลอาการลำไส้ใหญ่อักเสบ
ในเดือน 2012 นายอาเบะกลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยระบุว่า เขาได้หายจากโรคลำไส้ใหญ่อักเสบแล้วจากการรับประทานยา
เขาได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาบริหารประเทศในปี 2014 และ 2017 กลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุด
ความนิยมในตัวเขาขึ้น ๆ ลง ๆ แต่เขายังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้โดยไม่มีใครค้าน เพราะอิทธิพลที่เขามีต่อพรรคแอลดีพี ซึ่งได้แก้ไขกฎเพื่อเอื้อให้เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นสมัยที่ 3 ได้
นายอาเบะเป็นที่รู้จักจากท่าทีที่ใฝ่สงครามต่อนโยบายต่างประเทศและกลาโหมได้พยายามที่จะหาทางแก้ไข้รัฐธรรมนูญใฝ่สันติที่เกิดขึ้นในช่วงหลังสงครามของญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานแล้ว
ความชาตินิยมของเขามักทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นกับจีนและเกาหลีใต้ โดยเฉพาะหลังจากที่เขาเดินทางเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิ ในกรุงโตเกียวในปี 2013 ซึ่งเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับทหารญี่ปุ่นทั้งก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
ในปี 2015 เขาได้ผลักดันสิทธิ์ในการร่วมป้องกันตัวเอง (collective self-defence) ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นสามารถส่งทหารไปต่างประเทศเพื่อป้องกันตัวเองและพันธมิตรจากการโจมตีได้
แม้ว่าจะถูกต่อต้านจากประเทศเพื่อนบ้าน และแม้แต่จากประชาชนชาวญี่ปุ่นเอง รัฐสภาญี่ปุ่นก็รับรองการแก้ไขที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์นี้
เป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้นของเขาคือ การปรับปรุงรัฐธรรมนูญให้ญี่ปุ่นมีกองทัพได้ แต่ยังคงไม่สำเร็จ และเรื่องนี้ยังคงเป็นประเด็นที่สร้างความแตกแยกในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง
นโยบายของเขาซึ่งเป็นที่รู้จักอีกอย่างหนึ่งคือ “อาเบะโนมิกส์” นโยบายด้านเศรษฐกิจอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาที่ต้องการผ่อนคลายนโยบายการเงิน กระตุ้นการคลัง และปฏิรูปโครงสร้างใหม่
มาตรการเหล่านี้ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งวาระแรก แต่การชะลอตัวในช่วงเวลาต่อมาทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิผลของอาเบะโนมิกส์
ความพยายามของเขาในการฟื้นฟูเศรษฐกิจเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2020 ซึ่งญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015
ความกังวลเกี่ยวกับการรับมือการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ซ้ำเติมความนิยมของอาเบะเพิ่มมากขึ้น
หน้ากากผ้าที่ซักล้างได้ที่รัฐบาลแจกจ่าย ซึ่งได้รับการเรียกขานว่า “หน้ากากอาเบะ” (Abenomasks) ถูกวิจารณ์ว่ามีขนาดเล็กเกินไปและส่งถึงล่าช้า
นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า การรณรงค์ที่มีเป้าหมายในการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศจะมีส่วนทำให้โควิด-19 กลับมาระบาดอีกระลอก
เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพของนายอาเบะในช่วงต้นเดือน ส.ค. 2020 หลังจากที่แฟลช (Flash) นิตยสารรายสัปดาห์ รายงานว่า เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือดที่ห้องทำงานของเขาในเดือน ก.ค.
ในตอนแรก นายโยชิฮิเดะ สึกะ เลขาธิการรัฐมนตรี ได้ออกมาปฏิเสธรายงานนี้ แต่มีการคาดการณ์กันมากขึ้นหลังจากที่นายอาเบะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเคโอ (Keio University) ในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 17 ส.ค.
เขาประกาศลาออกเมื่อ 28 ส.ค. เป็นการยุติข่าวลือ แต่ก็นำไปสู่การช่วงชิงอำนาจกันภายในกลุ่มเล็ก ๆ ของพรรคแอลดีพี เพราะเขาไม่ยอมแต่งตั้งผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา
ท้ายที่สุด นายโยชิฮิเดะ สึกะ นักการเมืองที่มากประสบการณ์และรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมายาวนาน ก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งต่อจากเขา
เขาลูกลอบยิงระหว่างออกกิจกรรมทางการเมืองในพื้นที่ภาคตะวันตกของเมืองนาระ และเสียชีวิตลงแล้ว สิริอายุ 68 ปี
น่าเสียดายภูเก็ตไม่ได้เป็นเจ้าภาพExpo 2028 Phuket
โอด ม.112 ทำวงชวดเล่นมาเลเซียมาเลเซียไม่ให้วง Defying Decay แสดงในประเทศ นักร้องนำชี้เพราะทำเพลงเกี่ยวกับ ม.112
เปิดประตูต้อนรับหมออ๋อง หากก้าวไกลอยากเป็นผู้นำฝ่ายค้านก็ต้องขับ ‘ปดิพัทธ์’ ‘ศิธา’ ไม่อยากบอกว่าอยากให้เข้าไทยสร้างไทย แต่ยินดีต้อนรับ
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม