ควรทำงานหนักเพื่อสร้างชาติ ผู้ร่วมก่อตั้งซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่สัญชาติอินเดียชี้ หนุ่มสาวอินเดียควรจะทำงาน 70 ชม.ต่อสัปดาห์ หากต้องการให้อินเดียเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจ
เอ็น.อาร์. นารายานา เมอร์ธี ผู้ร่วมก่อตั้ง อินโฟซิส (Infosys) บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ กล่าวว่า อินเดียต้องมีเด็กรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า มีระเบียบวินัยอย่างยิ่ง และทำงานอย่างหนัก สัปดาห์ละ 70 ชั่วโมง หากต้องการให้อินเดียก้าวเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
“คุณรู้ไหมว่านี่คือสิ่งที่ชาวเยอรมันและญี่ปุ่นทำหลังสงครามโลกครั้งที่ 2” เมอร์ธี กล่าวกับ โมฮันดัส ปา อดีต CFO ของอินโฟซิส ในแชทที่เผยแพร่บน YouTube เมื่อวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.)
“เยาวชนของเรามีนิสัยชอบรับเอานิสัยอันไม่พึงประสงค์จากตะวันตกมาใช้แล้วไม่ช่วยเหลือประเทศชาติ” เมอร์ธี กล่าว พร้อมเสริมว่า “อินเดียเป็นหนี่งในประเทศที่มีผลิตภาพแรงงานต่ำที่สุดในโลก ซึ่งอินเดียควรเรียนรู้จากนโยบายที่ช่วยสร้างตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะจากจีน”
ความคิดเห็นของเมอร์ธี เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่วิธีคิดของผู้คนเกี่ยวกับการทำงานในตะวันตกและจีนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนหนุ่มสาวชาวจีนจำนวนมากกำลังขานรับวัฒนธรรมใหม่ที่เรียกว่า “การนอนราบ” (Tang Ping) หรือการนอนอยู่เฉยๆ ไม่สนใจหรือไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งเร้าภายนอกหรือค่านิยมเก่าแก่ดั้งเดิม เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านวัฒนธรรมการทำงานหนักแบบ “996” หรือการปฏิบัติงานตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 21.00 น. และทำงาน 6 วัน/สัปดาห์
ในสหรัฐฯ การลาออกเงียบๆ (quiet quitting) หรือการทำงานในหน้าที่นั้นๆ เท่าที่ต้องทำ กลายเป็นเทรนด์ในที่ทำงานเมื่อปีที่แล้ว
เมอร์ธี ซึ่งนิตยสาร Forbes ประเมินความมั่งคั่งไว้ที่กว่า 4 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.45 แสนล้านบาท) เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Infosys ในปี 1981 และกลายเป็นหนึ่งในบริษัท Outsource ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขายังเป็นพ่อตาของ ริชิ ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษด้วย
ความคิดเห็นของเมอร์ธี ถูกวิพากษ์อย่างหนักในโซเชียลมีเดีย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลสำรวจหลายครั้งแสดงให้เห็นว่าชาวอินเดียรู้สึกว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในคนที่ทำงานหนักเกินไปและได้รับค่าตอบแทนน้อยที่สุดในโลก
อินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจหลักที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก คาดว่าจะขยายตัว 6.3% ในปีนี้ ตามข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
(1 ดอลลาร์ = 36.22 บาท)