วิโรจน์ อาลี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มธ. และพิธีกรรายการ Voice TV, ในรายการ Voice TV – Talking Thailand, 2 ก.ค. 66
รายการ “Voice TV – Talking Thailand” ออกอากาศตอน “ก้าวไกลเทหน้าตักส่งพิธาคนเดียว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะเรียกว่าส้มหล่นใส่เพื่อไทย” เผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊ค เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 66 ซึ่งภาพปกวีดีโอมีการพาดหัวว่า “โทษเพื่อไทยไม่ได้ ถ้าพิธาวืดนายก”
โดยประเด็นของการพูดคุยคือการเลือกนายกรัฐมนตรีที่กำลังจะเกิดขึ้น และวิจารณ์ว่าถ้าเกิดเหตุไม่คาดหมาย ก็เป็นเพราะความผิดพลาดของทางพรรคก้าวไกลเองที่เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเสนอถึง 3 คนเพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัย
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าเชื่อถือได้ว่าคุณพิธาจะขาดคุณสมบัติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความผิดพลาดของพรรคก้าวไกลเอง จะมากล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยส้มหล่นไม่ได้
พรรคก้าวไกลควรจะหาเสียงในสภาให้ได้จะดีกว่าการจัดทัวร์ไปลงพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยโหวตให้พรรคก้าวไกลอยู่แล้ว แต่คะแนนรวมของทั้ง 2 พรรคยังมีไม่เพียงพอกับการสนับสนุนให้คุณพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรี
จากนั้นวิจารณ์สื่อมวลชนบางสำนักที่พยายามปั่นกระแสโจมตีพรรคเพื่อไทย โดยระบุชื่อ “ข่าวสด” และ “มติชน” ว่ามีลักษณะคล้ายกับการปล่อยข่าวลือเยอะมาก โดยยกตัวอย่างพาดหัว “เพื่อไทยขู่…” ซึ่งในเนื้อข่าวไม่ได้มีส่วนไหนที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยขู่อะไร หรือกรณีข่าวลือที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานซึ่งมีเนื้อหาว่า พรรคเพื่อไทยยอมถอยแล้ว โดยมีเงื่อนไขว่าหากคุณพิธาไม่ได้เป็นนายก ก็ต้องให้เพื่อไทยขึ้นมาแทน
นายวิโรจน์ อาลี พิธีกรรายการได้ตั้งคำถามในประเด็นนี้ว่า “คือมันอยู่กันแบบนี้เหรอ ? จะอยู่กันแบบยิงข่าวกันรายวันแบบนี้เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนใช่มั้ย ? ทำธุรกิจทัวร์กันหรือไงประเทศนี้ ?”
จากนั้นพิธีกรรายการย้อนกลับมาพูดถึงประเด็นการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยวิจารณ์ถึงสาเหตุที่ กลุ่ม ส.ว. กับคุณพิธาพูดไม่ตรงกัน เกี่ยวกับการสนับสนุนจาก ส.ว. นายวิโรจน์กล่าวว่า ดูเหมือนพรรคก้าวไกลจะไม่มีความพยายามที่จะคุยกับ ส.ว. เอง แต่ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปคุยให้
“1 คือความพยายามที่จะคุย มันเหมือนไม่ได้ตั้งใจมากเท่าไร อันนี้ผมไม่แน่ใจนะ แต่เป็นข่าวที่ จากแหล่งข่าวที่พอน่าจะเชื่อถือได้เนี่ย คือเค้าบอกคนที่ไปเจรจาเนี่ย ไม่ใช่พรรคก้าวไกลนะ แต่คือพรรคเพื่อไทยที่ไปเจรจาให้เรื่อง ส.ว.
กับ 2 คือการเจรจาในแต่ละครั้งเนี่ย มีการไปพูดคุยกันเนี่ย คุณทิม (พิธา) ไม่เคยไปนะ ซึ่งผมบอกว่ามันมีความจำเป็น คุณจะมาอ้างว่า ถ้าคุณจะอ้างว่า ส.ว. ต้องรู้เอง มันไม่ใช่นะ! คุณจะต้องเอา Mandate ของประชาชนไปคุยกับเค้า ไม่ใช่คุณไปบอกว่า ส.ว. ต้องคิดเอาเอง มันไม่ใช่ไง!
คือคุณจะใช้ทัวร์บริหารประเทศนี้เหรอ? คือตัวคุณจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ภาวะความผู้นำ หรืออะไรทั้งนั้น ไม่มี! จะคือใช้ทัวร์อย่างเดียว? นัดประชุมกูก็ไม่ไป นัดไปกูก็ขอเลื่อน แบบนี้มันจะบริหารประเทศได้หรือเปล่า ? ผมชักกังขา หรือไปดูวอลเลย์ดีกว่าอะไรประมาณนี้” นายวิโรจน์ กล่าว