
บีบขายหุ้น สหรัฐฯ ขู่แบนแอป TikTok จากประเทศ หากบริษัทแม่สัญชาติจีนไม่ยอมขายหุ้น
รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้ ByteDance เจ้าของแอปวิดีโอสั้นยอดนิยม TikTok ให้ถอนการถือหุ้น TikTok หรือเสี่ยงถูกทางการสหรัฐฯ สั่งแบน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนที่สุดที่เจ้าหน้าที่และสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่าข้อมูลผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐฯ ซึ่งมีมากกว่า 1 ล้านบัญชี อาจถูกส่งต่อไปยังรัฐบาลจีน
นอกจากนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลโจ ไบเดน ขู่จะแบน TikTok หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยพยายามแบน TikTok เมื่อปี 2020 แต่ถูกศาลสั่งเบรกไว้
ด้านโฆษก TikTok กล่าวว่า “หากการปกป้องความมั่นคงของชาติคือเป้าหมาย การขายกิจการไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากการเปลี่ยนเจ้าของจะไม่กำหนดข้อจำกัดใหม่ใดๆ ในเรื่องการการเข้าถึงหรือการไหลของข้อมูล”
“วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับข้อกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ คือการปกป้องข้อมูลและระบบของผู้ใช้ในสหรัฐฯ อย่างโปร่งใส โดยมีการพิสูจน์และตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอกที่มีประสิทธิภาพ”
ขณะที่ทางการจีนออกมาโต้ตอบเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ว่าสหรัฐฯ ไม่เคยแสดงหลักฐานที่บ่งชี้ว่า TikTok คุกคามความมั่นคงของชาติ และสหรัฐฯ ควรจะหยุดเล่นงาน TikTok ได้แล้ว
โซว จื่อ โจว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TikTok มีกำหนดปรากฏตัวต่อหน้ารัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจีนจะอนุมัติการขายกิจการหรือไม่
เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่ TikTok และคณะกรรมาธิการกำกับดูแลการลงทุนจากต่างประเทศของสหรัฐฯ (Committee on Foreign Investment in the United States : CFIUS) ได้หารือเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของข้อมูล โดย TikTok ระบุว่า ได้ทุ่มเงินกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.16 หมื่นล้านบาท) ไปกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อย่างเข้มงวด และปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการสอดแนมข้อมูลผู้ใช้
Wall Street Journal เปิดเผยว่า สัดส่วนหุ้นของ ByteDance แบ่งเป็น นักลงทุนทั่วโลก 60% พนักงาน 20% และผู้ก่อตั้ง 20%
(1 ดอลลาร์ = 34.43 บาท)