Newsยุทธศาสตร์เพื่อไทยชี้เก็บภาษีเพิ่มเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องเหมาะสมเก็บ Capital Gain ขึ้นภาษีนิติบุคคลเสี่ยงนักลงทุนหนี ทุนไหลออกนอกประเทศ

ยุทธศาสตร์เพื่อไทยชี้เก็บภาษีเพิ่มเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องเหมาะสมเก็บ Capital Gain ขึ้นภาษีนิติบุคคลเสี่ยงนักลงทุนหนี ทุนไหลออกนอกประเทศ

30 พ.ค. 66 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน และ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “THANDIGITAL” ตอน เพื่อไทยเตือน นโยบายภาษีก้าวไกล ห่วงเงินทุนไหลออก ซึ่งพิธีกรได้ถามถึงความคิดเห็นของนายพิชัย ต่อนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเด็นที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 

 

ประเด็นแรก ความเห็นต่อนโยบายพรรคก้าวไกล ซึ่งคุณพิชัยตอบว่า “เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีแนวคิดในการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เพราะประเทศไทยมีรายได้-ภาษีต่อ GDP ต่ำมาก เพียง 16%-17% เอง การที่จะเพิ่มให้มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น แต่ในภาวะนี้ มันอาจจะเหมาะสมหรือไม่ ?

 

ในมุมผมเห็นด้วย แต่ควรดูเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสมในการเก็บ”

 

“เรื่องภาษี Capital Gain Tax ภาษีที่เก็บจากหุ้นนี่ ต้องเรียนว่า มีความกังวลครับ เพราะว่าตลาดหลักทรัพย์ไทยยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่ การไปเก็บภาษี ก็อาจจะเป็นการตัดตอนในระดับนึง และบริษัทต่าง ๆ ยังใช้การระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์อยู่ ถ้าเกิดจะไปเก็บภาษีลักษณะนี้มันก็จะเป็นปัญหา 

 

เพราะปัจจุบันนี้ ประเทศไทยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐเยอะ คนก็กังวลกันว่าทุนสำรองของไทยจะไหลกลับอเมริกา ตอนนี้มันต่างกันค่อนข้างมาก ของเราเปอร์เซ็นต์กว่า ๆ แต่ของอเมริกาเขาขึ้นไป 5% กว่าแล้ว 

 

อันนี้ก็เลยอยากให้ข้อคิดเห็นว่าในปัจจุบัน ที่เงินไม่ไหลออกเพราะมีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เยอะ เพราะว่าผลตอบแทนในตลาดหลักทรัพย์เราค่อนข้างให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เงินก็เลยไม่ไหลออก แต่ถ้าเมื่อไรที่มีการไปเก็บภาษี Capital Gain Tax เงินมันจะไหลออก ผมเกรงอย่างนั้นนะครับ ถ้าเงินไหลออก เราก็จะมีความเสียหายได้ สถานะการเงินการคลังเราก็จะเสียหายได้

 

เป็นห่วงครับ แนวคิดต่าง ๆ ในอเมริกาเขาก็ทำ แต่ว่าส่วนมากเป็นประเทศที่เจริญแล้ว ประเทศที่ยังไม่พัฒนา หรือกำลังพัฒนา ยังไม่ค่อยเก็บภาษี Capital Gain Tax กัน ในมุมผม ในเวลาที่เหมาะสมก็เก็บได้ แต่ในภาวะเช่นนี้ ในภาวะเช่นนี้ ที่ตลาดของโลกผันผวน อัตราดอกเบี้ยของไทยกับอเมริกายังต่างกันมาก ผมเกรงว่าอันนี้คุณไหมยังไม่ได้คำนึงถึงนะครับ ฝากรบกวนพิจารณานิดนึง

 

คนในตลาดหลักทรัพย์เขาก็บ่นกันนะครับว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหา”

 

“เรื่องการขึ้นภาษีนิติบุคคล ในสมัยรัฐบาลเพื่อไทย รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ เราเป็นคนลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เป็น 23% แล้วมาเป็น 20% เหตุผลของเราที่เราต้องการจะลดภาษีคือ เราต้องการให้มีการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา อย่างเราดูภาษีของสิงคโปร์ หรือฮ่องกง ประมาณ 16%-17% เองนะฮะ ของเรา ถ้าลงมา 20% คนก็จะอยากมาลงทุนกับเรา ถ้าเราขึ้นภาษีไปสูง คนก็อาจจะไม่มาลงทุนกับเรา

 

การลดภาษี ทำให้เราเก็บภาษีได้มากขึ้นด้วยนะครับ 30% มา 23% นี่ทำให้คนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ยอมจ่ายภาษีมากขึ้น แทนที่จะหนีภาษีกัน ก็มาจ่ายภาษีกันมากขึ้น แต่ที่มันไม่มีการลงทุนเพิ่มขึ้น มันเกิดจากการปฏิวัตินะครับ ต้องขอเรียนก่อน มันเลยทำให้การลงทุนหายไป จริง ๆ เราลดภาษีเอาไว้เพื่อให้มีการลงทุนมากขึ้น

 

การขึ้นภาษีต้องดูว่า Competitive Place ปัจจุบันเราต้องมาดูว่า เราต้องการให้นักลงทุนมาลงทุนกันมาก ๆ เนี่ย การขึ้นภาษีอาจจะทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน”

 

“สำหรับการเก็บภาษีความมั่งคั่ง สำหรับคนที่มีทรัพย์สินเกิน 300 ล้านขึ้นไป ต้องจ่ายภาษีถึง 0.5% ทำให้คนไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์กัน เพราะว่าคนที่จะมีหุ้นอยู่ จะไปเข้าตลาดหลักทรัพย์มา กลายเป็นว่ารวยขึ้นมาหลายร้อยล้าน มันก็อาจทำให้คนไม่อยากเข้าตลาดหลักทรัพย์กัน 

 

ส่วนตัวเห็นว่า การลดความเหลื่อมล้ำ เก็บภาษีคนรวยมาให้คนจน เป็นแนวคิดที่ถูกต้อง แต่อยากจะให้คิดให้รอบคอบนิดนึงว่าควรจะไปทางด้านไหน ไม่ได้คัดค้านนะครับ ผมเชื่อว่าความเหลื่อมล้ำเราเยอะมากในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา แต่คนจนกลับมีรายได้ลดลง ผมอยากจะให้คิดว่าให้คนรวยยอมเสียสละ จ่ายเงินมากขึ้นเพื่อช่วยคนที่ยากจน

 

ในมุมผม 300 ล้านอาจจะน้อยไป ควรจะขึ้นไป 500 – 1,000 ล้าน ไปเก็บคนที่มีรายได้เยอะ ๆ  จะเป็นประโยชน์มากกว่า”




เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า