ขาดทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท แบงก์ชาติซาอุฯ ขาดทุนทันทีกว่า 80% หลัง USB ปิดดีลเข้าซื้อ Credit Suisse
วันที่ 20 มีนาคม 2566 ธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (Saudi National Bank : SNB) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของธนาคารเครดิต สวิส เปิดเผยว่า ธนาคารขาดทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3.41 หมื่นล้านบาท) หลังธนาคาร USB บรรลุข้อตกลลงในการซื้อกิจการ Credit Suisse ด้วยมูลค่า 3,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.09 แสนล้านบาท)
SNB ถือหุ้น Credit Suisse 9.9% หลังจากที่ได้เข้าซื้อหุ้นเครดิต สวิส เมื่อเดือนพฤศจิยายนที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 3.82 ฟรังก์สวิส (ราว 141 บาท) คิดเป็นวงเงินรวม 1,400 ล้านฟรังก์สวิส (ราว 5.16 หมื่นล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ข้อตกลงควบรวมกิจการ USB เข้าซื้อหุ้นของเครดิต สวิส ในราคาเพียงหุ้นละ 0.76 ฟรังก์สวิส (28 บาท) ส่งผลให้ USB ขาดทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 80% ของเงินลงทุน
ธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า การขาดทุนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อแผนการขยายธุรกิจหรือความสามารถในการทำกำไรของทางธนาคาร เนื่องจากการลงทุนใน Credit Suisse คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 0.5% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคาร
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.28 น. ตามเวลาลอนดอน หุ้น USB ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ มีการซื้อขายลดลง 10.5%, หุ้น Credit Suisse ทรุดกว่า 62% ขณะที่หุ้น SNB ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.58%
(1 ดอลลาร์ = 34.11 บาท)
(1 ฟรังก์สวิส = 36.84 บาท)