
ปรับกฎระเบียบใหม่ สิงคโปร์ยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับเมลามีน สำหรับการนำเข้านม-ผงสำหรับทารกจากจีน
สิงคโปร์จะยกเลิกข้อกำหนดเกี่ยวกับเมลามีนสำหรับการนำเข้านม ผลิตภัณฑ์นม และผลิตภัณฑ์ที่มีนมเป็นส่วนผสมจากจีน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป สำนักงานอาหารแห่งสิงคโปร์ (SFA) ประกาศเมื่อวันจันทร์ (23 ต.ค.)
ข้อกำหนดดังกล่าวเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2008 หลังมีการตรวจพบเมลามีนซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตพลาสติกในผลิตภัณฑ์นมสำหรับทารกที่ผลิตในจีน
“ตั้งแต่นั้นมา จีนได้ใช้มาตรการต่างๆ รวมถึงเพาะพันธุ์โคนม การซื้อนมสดและนมดิบ และการขนส่งนมสดและนมดิบไปยังโรงงานแปรรูปนม เพื่อยกระดับกระบวนการกำกับดูแลและบริหารจัดการผลิตภัณฑ์นมในประเทศ รวมถึงการออกใบอนุญาตการผลิต การตรวจสอบ การเฝ้าระวัง และการประเมินที่มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น และบทลงโทษที่รุนแรงยิ่งขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์นมที่ตรวจพบสารเมลามีน” SFA ระบุ
ภายใต้กฎปัจจุบันของ SFA กำหนดให้สามารถนำเข้านม ผลิตภัณฑ์นม และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมจากประเทศจีน ที่ผลิตโดยสถานประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกโดยทางการจีนเท่านั้น โดยผู้ผลิตเหล่านี้จำเป็นต้องทดสอบวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยพร้อมที่จะขายในแต่ละล็อตการผลิตเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการปนเปื้อนสารเมลามีน
นอกจากนี้ ทางการจีนจะต้องตรวจสอบและทดสอบผลิตภัณฑ์แต่ละล็อตการผลิต และออกใบรับรองความปลอดภัยของอาหารพร้อมผลการทดสอบสารเมลามีน เพื่อติดตามสินค้าที่ส่งออกไปยังสิงคโปร์
ทั้งนี้ แม้ว่าข้อกำหนดการนำเข้าเกี่ยวกับเมลามีนจะถูกยกเลิกตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. แต่ SFA ระบุว่า นมและผลิตภัณฑ์นมที่นำเข้าจากประเทศจีน รวมถึงนม นมผง ชีส เนย ไอศกรีม และโยเกิร์ต จะยังคงอยู่ภายใต้การตรวจสอบของ SFA และจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นๆ ที่มีอยู่สำหรับการนำเข้า
ในปี 2008 ประเทศจีนรายงานว่ามีเด็กทารกเสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และล้มป่วยอีกเกือบ 300,000 ราย จากการดื่มนมปนเปื้อนสารเมลามีน
ทางการจีนลงโทษผู้ผลิตและจำหน่ายผงโปรตีนเมลามีนอย่างรุนแรง บางคนถูกจำคุกตลอดชีวิต และอีกสองคนถูกประหารชีวิต
อย่างไรก็ตาม กว่าทศวรรษที่ผ่านมา ผลกระทบจากกรณีอื้อฉาวนมผงปนเปื้อนเมลามีนที่มีต่ออุตสาหกรรมนมของจีนยังคงปรากฏชัด โดยแบรนด์ต่างประเทศถูกมองว่า “มีความน่าเชื่อถือมากกว่ามากแบรนด์ในประเทศ”