เกาหลีเร่งปราบ ‘ทัวร์บังคับซื้อ’ และไกด์เถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาตนำท่องเที่ยว เหตุกระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยวเกาหลี
รัฐบาลกรุงโซล เตรียมปราบปราม ‘ทัวร์บังคับซื้อ’ ซึ่งกำลังคุกคามชื่อเสียงของเมืองหลวงของเกาหลีในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วโลก
‘ทัวร์บังคับซื้อ’ หมายถึงแพ็คเกจทัวร์ที่นักท่องเที่ยวจะถูกต้อนเข้าไปในร้านค้าและแทบจะถูกบังคับให้ซื้อสินค้าราคาแพงเกินไป เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม และสินค้าปลอดภาษี
นอกเหนือจากการบังคับให้ซื้อของแล้ว โปรแกรมทัวร์ในกรุงโซลส่วนใหญ่ยังประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าฟรี แต่ลูกทัวร์จะต้องจ่ายเงินเพิ่มหากต้องการเข้าร่วมใน “โปรแกรมทัวร์เสริม” แม้ว่าแพ็คเกจทัวร์ในตอนแรกจะครอบคลุมการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็ตาม
การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับล่ามการท่องเที่ยวที่ขาดคุณสมบัติที่เรียกว่า “ผู้ควบคุมทัวร์” ซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ไม่มีใบอนุญาตมัคคุเทศก์ที่ถูกต้อง ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากบริษัททัวร์ในประเทศ โดยแหล่งรายได้หลักของไกด์เถื่อนเหล่านี้คือค่าคอมมิชชันจากร้านค้า
เหยื่อของ ‘ทัวร์บังคับซื้อ’ เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่บรรรดาบริษัททัวร์ท้องถิ่นพยายามตักตวงผลประโยชน์จากนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากที่รัฐบาลจีนยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ในหลายประเทศ ซึ่งรวมทั้ง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ในกรุงโซลได้เริ่มดำเนินการปราบปราม ‘ทัวร์บังคับซื้อ’ ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในเขตจุงเมื่อวันที่ 12 ต.ค. และเขตจองโนเมื่อวันที่ 26 ต.ค. โดยในระหว่างการปราบปราม พวกเขาพบ “ผู้ควบคุมทัวร์” ที่ไม่มีใบอนุญาต 1 คน และ “ไกด์นั่ง” (ไกด์ที่มีใบอนุญาตซึ่งถูกจ้างให้นั่งบนรถทัวร์ ไว้หลอกเจ้าหน้าที่กรณีที่ถูกตรวจสอบ) 3 คน
เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวในเขตมาโปอีกครั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป จะมีการตรวจสอบห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลอดภาษีเพิ่มเติมโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
“คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนโซลจะเพิ่มขึ้นในช่วงสิ้นปี เราจะเร่งปราบปรามการกระทำที่ผิดกฎหมายต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่านักท่องเที่ยวทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับเวลาของพวกเขาที่นี่ และเดินทางกลับประเทศพร้อมกับความทรงจำอันแสนสุขของกรุงโซล” คิม ยอง-ฮวาน หัวหน้าสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาของกรุงโซล กล่าวในแถลงการณ์