
SCC แถลงการณ์ ได้ยุติการค้าขายกับอิหร่านอย่างถาวรไปแล้วตั้งแต่ปี 61 ตามมาตรการของสหรัฐ เงิน 20 ล้าน USD เป็นค่าประนอมยอมความที่เตรียมเอาไว้แล้ว ไม่ได้ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด
สืบเนื่องจากกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐ สั่งปรับบริษัทเอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด (SCG Plastic) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) ฐานละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านจากการโอนเงินดอลล่าร์สหรัฐชำระค่าสินค้าที่ผลิตในอิหร่าน ช่วงปี 2560 ถึง 2561 นั้น
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 SCC ได้ชี้แจงว่า SCG Plastic เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ขายเม็ดพลาสติกพอลิเอทิลีน (PE) ที่ผลิตจากบริษัทที่เอสซีจีร่วมทุนในอิหร่าน ซึ่ง SCG Plastics ได้ขาย PE ที่ผลิตจากบริษัทร่วมทุนนี้มาตั้งแต่ปี 2548 โดยได้ใช้หลายสกุลเงินในการค้าขายตามความต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจตามปกติของอุตสาหกรรมนี้ และช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของอิหร่าน
ต่อมาในเดือน ก.พ. 2556 SCG Plastics ได้หยุดการขาย PE ที่ผลิตในอิหร่านหลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของอิหร่าน และกลับมาขายอีกครั้งเมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศผ่อนผันการคว่ำบาตร ดังกล่าวในปี 2557
จากความไม่แน่นอนในสถานการณ์การคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาต่ออิหร่าน ตั้งแต่ปี 2561 SCG Plastics ได้ยุติการขาย PE จากบริษัทร่วมทุนอย่างถาวร หลังจากที่บริษัทในเอสซีจีหยุดดำเนินการกับบริษัทร่วมทุนนั้นและสินทรัพย์ดังกล่าวได้ถูกจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ปี 2561 ตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา
ต่อมาสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (OFAC) เข้าตรวจสอบการขาย PE ของ SCG Plastics ที่ค้าขายช่วงเดือน เม.ย. 2560 ถึง เดือน พ.ย. 2561 ว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตร หรือไม่ ซึ่ง SCG Plastics ได้ให้ความร่วมมือกับทางราชการของสหรัฐฯ เป็นอย่างดี
เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจสอบ OFAC เห็น ว่ามีการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน แม้การขายสินค้าดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลสัญชาติสหรัฐอเมริกา ซึ่ง เป็นเป้าหมายหลักของการคว่ำบาตร แต่มีการใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐในการขายสินค้าที่ผลิตจากอิหร่านในช่วงดังกล่าว ทำให้สถาบันการเงินซึ่งเป็นบุคคลสหรัฐมีส่วนร่วมในการชำระเงินด้วย ส่วนการค้าขายด้วยสกุลเงินอื่นไม่ได้ละเมิด มาตรการดังกล่าว
OFAC เห็นว่า SCG Plastics ได้ให้ความร่วมมือกับ OFAC ในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ รวมถึงได้ออก นโยบายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต OFAC จึงได้เสนอให้ SCG Plastics ทำข้อตกลงยุติคดี (Settlement Agreement) โดยให้ SCG Plastics จ่ายเงินค่าประนอมยอมความให้กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาจำนวน 20 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งจะส่งผลให้OFAC ยุติการพิจารณาข้อหาดังกล่าว ทั้งนี้ การจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อ ผลการดำเนินงานในปี 2567 ของเอสซีจีเนื่องจากได้ตั้งสำรองในงบการเงินสิ้นปี 2566 เรียบร้อยแล้ว