‘รสนา’ ชี้จับตาดูให้ดี ทักษิณ-ฮุนเซนอาจเจรจาผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ทำคนไทยอาจจะเสียแหล่งปิโตรเลียม 20 ล้านล้าน
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊ก วิจารณ์ถึงการพบกันระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย กับสมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการตกลงผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งมีแหล่งปิโตรเลียมมูลค่า 20 ล้านล้านบาทอยู่ใต้ทะเล
น.ส.รสนาระบุว่า ภายหลังจากที่นายทักษิณ ชนะการเลือกตั้งในปี 2544 ก็ให้มีการแปรรูป ปตท. เป็นรัฐวิสาหกิจ และทำ MOU 2544 เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์กับกัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว แต่การเจรจายังไม่ประสบความสำเร็จจนกระทั่งถึงวันนี้
“จนเมื่อทักษิณยอมกลับมารับโทษ ในรัฐบาลที่เป็นพรรคของตัวเอง และได้รับการอภัยโทษ จนมาถึงการพักโทษ สิ่งที่ต้องจับตามองคือการมาเยี่ยมทักษิณของสมเด็จฮุนเซ็นทันทีที่นักโทษชายได้รับการพักโทษถึงบ้านพัก เป็นการมาเยี่ยมเยียนกันแบบข้ามหัวรัฐบาลไทย ข้ามหัวนายกรัฐมนตรี และข้ามหัวรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ แสดงว่าฮุนเซ็นรู้ดีว่าอำนาจแท้จริงในการเคาะตกลงผลประโยชน์เรื่องก๊าซในพื้นที่อ้างสิทธิอยู่ที่ใคร” น.ส. รสนาระบุ
น.ส.รสนา อ้างข่าวของนิเคอิ ซึ่งตีพิมพ์ในวันที่ 21 ก.พ. 2567 ซึ่งระบุว่า “มีความชัดเจนว่าเป้าประสงค์ของการเยี่ยมเยียนในครั้งนี้คือการช่วยให้การเจรจามีความคืบหน้าเรื่องการต่อรองผลประโยชน์เกี่ยวกับแหล่งก๊าซในพื้นที่อ้างสิทธิ์ว่าทับซ้อนกัน”
อีกทั้งยังระบุว่า ถึงแม้ว่าไทย-กัมพูชายังตกลงกันไม่จบ แต่ว่าตั้งแต่ปี 2516 บรรษัทพลังงานต่างชาติก็ได้เข้ามาจับจองสัมปทานเอาไว้เกือบเต็มพื้นที่แล้ว และไม่ได้ถูกยกเลิกจนปัจจุบัน ดังนั้นการเปิดพื้นที่ทางทะเลมาแสวงหาประโยชน์ทั้งก๊าซและน้ำมัน ร่วมกับกัมพูชาบรรษัทต่างชาติก็จะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์เป็นหลัก ในขณะที่รัฐบาลไทย อาจจะได้ส่วนแบ่งมาบ้างเล็กน้อย
น.ส. รสนาระบุว่ารัฐบาลไม่มีหน่วยงานที่เป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติที่แท้จริงมาจัดการกับส่วนแบ่งปิโตรเลียม ต้องอาศัยบริษัทเอกชนนายหน้าช่วยจัดการให้ ผลประโยชน์จำนวนมหาศาลย่อมตกกับบรรษัทต่างชาติ และบริษัทด้านพลังงานเอกชนเป็นหลัก ในขณะที่ประชาชนคนไทยได้รับปผลประโยชน์ส่วนน้อยมาก
อีกทั้งประเทศยังสุ่มเสี่ยงที่จะสูญเสียดินแดน อาณาเขตทางทะเล และทรัพยากรที่ประชาชนคนไทยควรได้รับ เพราะวิธีการรุกคืบแบบกัมพูชา และรัฐบาลที่ไม่ใส่ใจ
“นักการเมืองที่โกงได้แม้กระทั่งการติดคุก โดยมีข้าราชการที่สันหลังอักเสบเปื่อยยุ่ย ยอมค้อมหลังก้มหัวให้ และยอมให้สัมภาษณ์แหกตาคนไทยทั้งประเทศอย่างเป็นทางการเช่นนี้แล้ว จะมีอะไรที่คนเหล่านี้ทำไม่ได้อีกบ้าง นอกเสียจากคนไทยจะตื่นรู้ ไม่ยอมให้นักการเมืองแบบนี้แหกตากอบโกยอีกต่อไป” น.ส. รสนาระบุ