กทม แพ้คดีคดี EIA ไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลตัดสินให้ชาวบ้านชนะคดี ศรีสุวรรณเตรียมขยายผลต่อ
31 พ.ค. 66 เวลา 10.00 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ส.25/2564 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 18 คน เป็น “ผู้ฟ้องคดี” กับ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร เป็น “ผู้ถูกฟ้องคดี”
ซึ่งคดีนี้มีมูลเหตุจากโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง ของ บมจ. ศุภาลัย (SPALI) ที่เข้ามาก่อสร้างคอนโดมิเนียมสูง และมีความยาวมากกว่า 303.5 เมตร ทำให้บังแดด-บังลมสร้างผลกระทบให้กับชาวบ้านข้างเคียง
ผู้ฟ้องคดีจึงรวมตัวกัน ยื่นฟ้องในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำละเมิดอันเกิดจากคำสั่งทางปกครอง จึงขอให้ศาลปกครอง ถอดถอนรายงาน EIA โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง ของ บมจ. ศุภาลัย (SPALI) ออก
นายศรีสุวรรณ จรรยา ในฐานะนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวหลังเข้าฟังคำพิพากษาว่า ศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการนี้ เนื่องจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (คชก. กทม.) ใช้อำนาจขยายระยะเวลาของการให้ความเห็นชอบรายงาน EIA ฉบับนี้ เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน หรือ วิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้
อีกทั้งการจัดทำรายงาน ไม่เป็นไปตามหลักวิชาการและข้อเท็จจริง โดยเฉพาะปัญหาการบังทิศทางลมและแสงแดด ที่จะมีผลกระทบต่อบ้านเรือนข้างเคียงที่ไม่อาจแก้ไขได้ ซึ่งสอดคล้องกับคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อ 26 ธ.ค.65 ที่ให้ระงับการก่อสร้างออกไปก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ทำให้โครงการนี้ต้องยุติโครงการไปโดยปริยาย ถึงแม้ว่าโครงการดังกล่าวจะมีการก่อสร้าง ลงเสาเข็มไปแล้วบางส่วน
อย่างไรก็ดี คำตัดสินมิได้เป็นการจำกัดสิทธิของผู้ประกอบการในการออกแบบก่อสร้าง และดำเนินการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ และยื่นขอรับฟังความเห็นของชาวบ้าน แต่นายศรีสุวรรณระบุว่าคงไม่ง่าย เพราะผลของคำพิพากษาค่อนข้างชัดเจนว่า การพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของ กทม. ไม่ได้ใช้ดุลยพินิจ หรือ หลักวิชาการที่ถูกต้องในการให้ความเห็นชอบ
สำหรับขั้นตอนต่อไป ทางสมาคม ฯ จะนำคำพิพากษานี้ไปยื่นต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ทั้งหมด ที่ยกมือให้ความเห็นชอบรายงาน EIA ฉบับนี้ เพราะที่ผ่านมาสมาคม ฯ ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านตลอดว่า ได้รับผลกระทบจากการอนุมัติอนุญาตของ คชก. กทม. มาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการทำหนังสือคัดค้านอย่างต่อเนื่อง แต่ คชก. กทม. ก็ไม่นำข้อท้วงติง ข้อกังวล ปัญหาของชาวบ้านไปพิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบ
เรื่องนี้จึงน่าจะเป็นบทเรียนที่สำคัญในการนำคำพิพากษาของศาลปกครอง ซึ่งเขียนมีเหตุมีผลมีหลักวิชาการค่อนข้างชัดเจนไปให้ทาง ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนสอบสวนเพื่อเอาคิดคณะกรรมการ คชก. เป็นรายบุคคลที่ยกมือให้ผ่านรายงาน EIA ฉบับนี้