เข้าใจประชาธิปไตยเสียใหม่! คำผกาอัดคนที่โจมตีพรรคฝ่ายตรงข้าม ชี้พวกเขาก็มาจากเสียงประชาชนเหมือนกัน จะเกลียดพวกเขาก็ได้แต่ปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้

วันที่ 7 ก.ค. 66 น.ส. ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา และนายวีรนันต์ กัณหา ร่วมกันดำเนินรายการ “In Her Eyes” โดยช่วงต้นรายการมีการวิเคราะห์สถานการณ์การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่ง น.ส. ลักขณากล่าวว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะดึงดันฝืนเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลไปเรื่อย ๆ เพราะถ้ายิ่งฝืนนาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการยาวนานขึ้น

น.ส. ลักขณาเสนอว่า หากเสนอชื่อนายพิธา ไม่สำเร็จ พรรคก้าวไกลควรสลับให้พรรคเพื่อไทยขึ้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วให้พรรคเพื่อไทยไปหาเสียงสนับสนุนมาให้ได้อีก 64 เสียงเพื่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แทน

สำหรับความเข้าใจผิดว่าพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น น.ส. ลักขณาอธิบายว่า พรรคที่ได้อันดับ 1 จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เองก็ต่อเมื่อได้รับคะแนนเสียงมากเกินกึ่งหนึ่งของสภา หรือมากกว่า 251 เสียง แต่ถ้าหากมีไม่ถึง พรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งก่อน จะได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล

สำหรับพรรคก้าวไกลที่มีคะแนนเสียง 151 เสียง และพรรคเพื่อไทยที่มีคะแนนเสียงใกล้เคียงกัน 141 เสียงนั้น อันดับ 1 และ 2 ไม่มีความหมาย พรรคใดสามารถรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งก่อน ก็จะได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล 

แต่ถ้าหากพรรคก้าวไกลไม่สามารถรวบคะแนนเสียงในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ถึง 376 เสียงในรัฐสภา (สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา รวมกัน)  พรรคเพื่อไทยย่อมมีสิทธิที่จะขึ้นมารวบรวมเสียงให้ครบ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้แทน

“สิ่งนี้ไม่ได้เป็นการทรยศต่อหลักการประชาธิปไตย ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะสเต็ปนี้ เป็นสเต็ปของการที่คุณจะต้องได้เสียงข้างมากในสภา และซับซ้อนกว่านั้น เสียงข้างมากในสภาล่าง (สภาผู้แทนราษฎร) ก็ยังไม่พอ คุณต้องไปเอาเสียง ส.ว. มาสมทบให้ได้ 376 เสียงด้วย” น.ส. ลักขณากล่าว

สำหรับคำวิจารณ์ที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากรายการเดียวกันในตอนก่อนหน้า (30 มิ.ย. 66) ซึ่งน.ส. ลักขณาพูดว่า ก็อาจจะเป็นไปได้ที่พรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 2 จะจับมือกับพรรคอันดับ 3 และ 4 เพื่อจัดตั้งรัฐบาล จนกระทั่งเกิดเสียงวิจารณ์ว่า น.ส. ลักขณากำลังพูดเปิดทางให้พรรคเพื่อไทย จับขั้วกับพรรคภูมิใจไทย และพลังประชารัฐเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ?

น.ส. ลักขณาอธิบายว่าเปิดทางแล้วมันขัดกับหลักการประชาธิปไตยข้อไหน พรรคภูมิใจไทยเองก็ได้รับการรับเลือกมาจากประชาชนมากถึง 70 เสียง จากการได้รับเสียงสนับสนุนจากคนไทยถึง 6-7 ล้านคน จึงควรเคารพเสียง 70 เสียงของภูมิใจไทยด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ชอบพรรคภูมิใจไทยก็ตาม

“ถ้าเราเคารพประชาชน เราจะไม่เคารพประชาชนที่เลือก ส.ส. 70 คนของภูมิใจไทยมาได้อย่างไร ? ส.ส. 70 คนของภูมิใจไทย ก็มาจากการเลือกของประชาชนเหมือนกัน

เรามีสิทธิที่จะเกลียดเค้า (ภูมิใจไทย)ได้ แต่เราไม่มีสิทธิที่จะลบล้างข้อเท็จจริงที่ว่า ก็มีประชาชนเลือก ส.ส. มาจากพรรคเค้าอีก 70 คน และเราก็จำเป็นต้องอยู่ร่วมกับเค้าในฐานะเพื่อนร่วมชาติโดยไม่จำเป็นต้องรักเค้า”