“เราต้องคิดก่อนว่ากัญชา ไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป เวลาเราพูดเรื่องนโยบายยาเสพติด กัญชาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเรื่องนั้นอีกต่อไป” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่

วันที่ 12 ก.พ. 62 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งในเวลานั้นดำรงตำแหน่ง ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่ เคยปราศรัยเรื่องนโยบายกัญชา ในงานปิกนิกอนาคตใหม่ ในสวนเบญจกิติ โดยนายพิธาได้กล่าวว่า

“อันดับแรก เราต้องคิดก่อนว่ากัญชา ไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป เวลาเราพูดเรื่องนโยบายยาเสพติด กัญชาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเรื่องนั้นอีกต่อไป

วิธีคิดของผมเกี่ยวกับกัญชา ก็คือ ประเทศไทยจะต้องเป็นเมดิคัลฮับ และก็เป็นทัวริซึมฮับเกี่ยวกับกัญชา อันดับ 1 ของเอเชียให้ได้ นั่นคือปลายทางที่เราต้องการ”

นอกจากนี้ นายพิธายังได้กล่าวย้ำถึงข้อดีของการปลดล็อกกัญชาด้วยว่า วันที่ 19 ก.พ. 62 มีการปลดล็อกไปเรียบร้อยแล้ว เราต้องทำให้กัญชาไม่เสียของอีกต่อไป 

มีความจำเป็นมากที่เราจะต้องกระจายโอกาสกัญชาให้ 2 ฝั่ง ฝั่งแรกคือผู้ป่วยที่มีความจำเป็นที่อยากจะหาวิธีรักษาทางเลือกมากกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และกระจายโอกาสให้กับเกษตรกร

=====

อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไปดักรอพบ นายพิธา ในฐานะหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ข้างเวทีปราศรัยของพรรคก้าวไกลที่นนทบุรี ปรากฏว่าเมื่อพบกัน นายพิธารับไมค์จากนายชูวิทย์แล้วกล่าวโดยที่คุณชูวิทย์ยังไม่ได้ถามอะไรว่า

“ไม่เอากัญชาเสรี ไม่เอากัญชาเสรีสุดโต่ง ไม่เอากัญชาเสรีสุญญากาศ เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แล้วควบคุมให้ประโยชน์มากกว่าโทษ ชัดพอไหมครับพี่”

ทำให้นายชูวิทย์ตะโกนสนับสนุนว่า “คุณพิธา ผมสนับสนุนพรรคก้าวไกล”

จากนั้น ทั้งคู่ได้มีการกล่าวพาดพิงนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก่อนที่นายพิธาจะกล่าวทิ้งท้ายว่า “ไม่เอากัญชาเสรีครับพี่”