Newsก่อนเสนอควรศึกษาก่อน! รศ.ดร.นงนุช ผอ.ทีมยุทธศาสตร์ กรุงไทย โต้นโยบาย “ชาติพัฒนากล้า” ชี้เครดิตบูโร เขาทำเครดิตสกอริ่งกันมาหลายปีแล้ว

ก่อนเสนอควรศึกษาก่อน! รศ.ดร.นงนุช ผอ.ทีมยุทธศาสตร์ กรุงไทย โต้นโยบาย “ชาติพัฒนากล้า” ชี้เครดิตบูโร เขาทำเครดิตสกอริ่งกันมาหลายปีแล้ว

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2566 รศ.ดร.นงนุช ตันติสันติวงศ์ นักวิชาการด้านเศรษฐกิจ การเงินและการคลังและภาษี มหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม เทรนต์ ประเทศอังกฤษ และ Visiting Academic, School of Electronics & Computer Science, University of Southampton ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ทีมยุทธศาสตร์องค์กร ธนาคารกรุงไทย

 

ได้ออกมาโต้ตอบนโยบาย “ยกเลิกแบล็คลิสต์ ใช้เครดิตสกอริ่ง” ของพรรคชาติพัฒนากล้า ที่นำแคมเปญโดยนายกรณ์ จาติกวณิช และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี 

 

โดยระบุว่า Credit Score (แต้มเครดิต) มีมานานหลายปีแล้ว การออกนโยบายแบบนี้เป็นอะไรที่ล้าหลังและเขาทำกันไปหมดแล้ว 

 

และเครดิตบูโรก็ไม่มีแบล็คลิสต์ตามที่นักการเมืองกลุ่มดังกล่าวอ้างด้วย เพราะหากมีแบล็คลิสต์เพียงเพราะผิดนัดชำระหนี้ครั้งเดียว สถาบันการเงินทั้งหลายคงไม่เหลือคนให้ปล่อยกู้ได้แล้ว

 

และหากจะทำตามข้อเสนอที่ไม่ให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้ของลูกค้ามายังเครดิตบูโร แล้วสถาบันการเงินทั้งหลายจะรู้ยอดหนี้คงค้างรวมทั้งหมดของคนขอกู้ภายในระบบการเงินไทยได้อย่างไง 

 

ชี้ก่อนที่นักการเมืองจะเสนออะไร ควรศึกษาข้อมูลเชิงลึก หรือมีประสบการณ์ให้รู้จริงในเรื่องปัจจุบันเสียก่อน ไม่ใช่ทำในสิ่งที่เขาทำกันไปหมดแล้ว

 

—————–

โพสต์ของ รศ.ดร.นงนุช

—————–

 

บริษัทเครดิตบูโร มี Credit Score มานานหลายปีแล้วค่ะ นโยบายนี้ มัน too late มากๆ 

ตอนแรกว่าจะโพสต์พรุ่งนี้ แต่อดใจไม่ได้ เพราะในคลิปมีการให้ข้อมูลผิดพลาดเต็มไปหมด

เข้าประเด็นเลยละกันค่ะ

 

  1. Credit score ไม่ใช่เรื่องใหม่ และบริษัทเครดิตบูโร เค้ามีมานานแล้ว 

 

  1. สถาบันการเงินไม่ได้ส่งข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ของลูกค้าที่มีการค้างชำระหนี้เท่านั้นค่ะ  มันไม่มีระบบแบล็คลิสต์ 

 

มันเป็นการส่งข้อมูล facts คุณจะจ่ายงวดตรงเวลาหรือจ่ายไม่ตรง สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย มีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลให้บริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมายค่ะ และการรายงานข้อมูล fact แบบนี้ ทำกันทั่วโลกค่ะ 

 

  1. การเสนอว่า จะไม่ให้สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทเครดิตบูโรตามกฏหมาย ได้รับข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้ของลูกค้าเลย โดยจะให้สถาบันการเงินได้ไปแต่คะแนนที่คำนวณมาจากการคำนวณปนๆ หลายสิ่งอย่างเท่านั้น …  

 

แล้วสถาบันการเงินทั้งหลายจะรู้ยอดหนี้คงค้างรวมทั้งหมดของคนขอกู้ภายในระบบการเงินไทยได้ยังไง จะเตรียมตัวรับมือได้ยังไงเมื่อลูกหนี้เริ่มไปค้างชำระที่สถาบันการเงินอื่น และตัวเองอาจจะกลายเป็นรายต่อไปที่ไม่ได้เงิน

 

ถ้าแก้กฏหมายเป็นแบบที่เสนอตามนโยบายนี้จริง สิ่งที่จะเกิดตามมา คือ คนจะไปขอกู้หลายสถาบันซ้อนๆ กันเยอะขึ้น เพราะแต่ละสถาบันไม่รู้ภาระหนี้ที่มีอยู่ของลูกค้ารายนี้ สถาบันการเงินก็จะไม่กล้าปล่อยเพราะไม่รู้ว่าคนที่มาขอกู้ไปค้างหนี้ที่อื่นไว้เท่าไหร่ 

 

สิ่งที่เสนอปรับแก้กฏหมายมานั้น จะทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า asymmetric information ค่ะ โดยหลักแล้ว asymmetric information จะก่อให้เกิด market failure หรือความล้มเหลวของตลาดค่ะ  

 

  1. ทุกสถาบันการเงิน เค้ามี credit scoring model ของตัวเค้าเองมากันหลาย 10 ปีแล้วค่ะ 

 

……………….

 

ก่อนเสนออะไรแบบนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า credit scoring modelling มี 2 แบบค่ะ 

 

  1. แบบที่ใช้ข้อมูลการชำระหนี้และการเป็นหนี้ในอดีตเพื่อบอกถึงพฤติกรรมเสี่ยง เพราะมีสมมติฐานว่าถ้าคนๆ นึงมีพฤติกรรมอย่างไรในอดีต ก็มีโอกาสมีพฤติกรรมแบบเดียวกันในอนาคต อันนี้คือแบบที่บริษัทเครดิตบูโรคำนวณอยู่ และสถาบันการเงินทั้งหลายก็สามารถซื้อข้อมูล credit score นี้ได้ 

 

score แบบนี้ของเครดิตบูโรไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลพฤติกรรมบนกิจกรรมชีวิตอื่นของคนหรือธุรกิจนั้น เช่น น้ำไฟ รายได้ อะไรอื่นมาประกอบ … เพราะเป็นการใช้ข้อมูลเครดิตของแต่ละคนที่มีสินเชื่อหรือบัตรเครดิตที่มีอยู่ทั้งหมดในระบบการเงินไทยในการคำนวณ เรียกว่ามี full credit information 

 

  1. แบบที่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการชำระหนี้และยอดหนี้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น รายได้ transaction อื่นๆ มาประกอบเพื่อทำนายโอกาสผิดนัดชำระหนี้จากความสามารถในการชำระหนี้  อันนี้เป็นการทำ credit scoring/rating ขององค์กรใดองค์กรหนึ่งที่ไม่ได้มีฐานข้อมูลระดับชาติ

 

… ที่ต้องใช้ข้อมูลปัจจัยอื่น ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำนาย ไม่ใช่เพื่อเป็นการปรับให้ credit score ดูบวก หรือดูดีขึ้น

 

นั่นเพราะว่าไม่ได้มีข้อมูลหนี้และการชำระหนี้ของคนๆ นั้นที่มีอยู่ในระบบการเงินไทยทั้งหมด มันยังมีอะไรที่ต้องทาย ต้องเดา ก็เอาปัจจัยอื่นมาช่วยทาย ช่วยเดา 

 

และในปัจจุบัน credit score ของบริษัทเครดิตบูโร เค้าก็ไม่ได้ใช้แค่ข้อมูลหนี้และการชำระหนี้นะคะ เค้าใช้ข้อมูลประเภทอื่นด้วยเพื่อประเมินความเสี่ยงของธุรกิจ … เพราะฉะนั้นที่เสนอปรับแก้มาในคลิป มันช้าไปแล้วค่ะ เค้าทำกันไปหมดแล้ว

 

และเรื่องแบล็คลิสต์เพียงเพราะผิดนัดชำระหนี้ครั้งเดียว มันไม่น่าจะเป็นเกณฑ์ที่เกี่ยวอะไรกับเครดิตบูโรค่ะ ไม่งั้นสถาบันการเงินทั้งหลายคงไม่เหลือคนให้ปล่อยกู้ได้แล้วค่ะ 

 

โดยทั่วไป การจะปล่อยสินเชื่อให้คนที่เคยมีหนี้ค้างชำระหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงและการกำหนดระดับความเสี่ยงที่รับได้ของเหล่าสถาบันการเงินทั่วโลก … เค้าเรียกว่า risk management ค่ะ ใครอื่นจะออกกฏบังคับให้ปล่อยหรือไม่ปล่อยสินเชื่อกลุ่มเสี่ยงได้คะ 

 

ก่อนเสนอ ควรศึกษาข้อมูลเชิงลึก หรือมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน เพื่อให้รู้สิ่งที่เป็นไปในปัจจุบัน เพื่อจะได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพื่ออดีตที่ผ่านมาแล้ว

 

ที่มา : Facebook : Dr. Nuch Tantisantiwong

 

#TheStructureNews

#ชาติพัฒนากล้า #กรณ์จาติกวณิช #อรรถวิชช์สุวรรณภักดี

อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า