
เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้ ผู้บริหาร NEX ขอให้รัฐบาลปรับแก้ไขกฎหมายการจัดซื้อรถ EV ชี้กรอบงบประมาณเดิมเป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนนโยบาย เพราะราคา EV แพงกว่ากรอบเดิม
24 ต.ค. 66 นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของเมืองไทย กล่าวถึงการสานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำอาเซียนในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ผ่านนโยบาย 30@30 ซึ่งกำหนดเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ 30% ของกำลังการผลิตยานยนต์ภายในประเทศ ภายในปี 2573 โดยให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้ในราชการแทนรถยนต์เดิมที่จะหมดอายุการใช้งาน หรือที่ต้องจัดซื้อจัดจ้างขึ้นใหม่ และให้มีการขับเคลื่อนเปลี่ยนรถสาธารณะทุกชนิดให้เป็นรถ EV นั้น
เป็นการช่วยกันเดินหน้าสร้างอนาคตที่ดีและมอบคืนอากาศและลมหายใจสะอาดให้กับประชาชน ด้วยการลดจำนวนรถยนต์สันดาปซึ่งเป็นต้นกำเนิดฝุ่น PM 2.5 และยังสามารถนำคาร์บอนเครดิตที่เกิดจากกระบวนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมาซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสร้างรายได้คืนสู่องค์กรอีกด้วย
ด้านความคุ้มทุนจะพบว่าสามารถประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้กว่า 40% ค่าซ่อมบำรุงก็จะลดลงกว่า 60% เพราะรถ EV ซ่อมบำรุงตามระยะทาง ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงให้สิ้นเปลืองเหมือนรถยนต์สันดาป
อย่างไรก็ตาม ต้นทุนรถ EV ยังสูงกว่ารถยนต์สันดาป ทำให้การจัดซื้อรถ EV เพื่อมาทดแทนรถเดิมที่หมดอายุการใช้งานด้วยงบประมาณเท่ากับรถยนต์สันดาปที่ทางราชการกำหนดน่าจะยังไม่น่าจะเป็นไปได้ จึงขอฝากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีความเหมาะสม
รวมทั้งพิจารณากำหนดราคากลางตามความเป็นจริง แต่ระหว่างที่รอการปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง หากจะนำรถ EV มาใช้ควรดำเนินการในรูปแบบการเช่ารถยนต์ EV ทดแทนรถยนต์สันดาปไปก่อนน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า