ได้เห็นดีกันแน่ตอนเลือกตั้ง ประธานสมาคมแพทย์เกาหลีคนใหม่ให้คำมั่นว่าจะลงโทษ นักการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มแพทย์ที่มาประท้วง คัดค้านนโยบายเพิ่มโควตานักศึกษาแพทย์

Lim Hyun-taek ประธานสมาคมการแพทย์เกาหลี (KMA) คนใหม่ให้คำมั่นว่าจะขัดขวางการรณรงค์หาเสียงของนักการเมืองที่ต่อต้านกลุ่มแพทย์ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิ โดยทางสมาคมจะชักชวนผู้ป่วยไม่ให้ลงคะแนนเสียงให้นักการเมืองเหล่านั้นในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นวันที่ 10 เม.ย.นี้ 

พร้อมกันนั้นประธาน KMA ยังได้ประณามฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี ยุน ซุกยอล ที่พยายามเดินหน้าผลักดันแผนการเพิ่มโควตานักศึกษาแพทย์ ว่ากำลังเอาชีวิตชาวเกาหลีมาเสี่ยง

ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลเกาหลีได้ตัดสินใจเพิ่มโควตารับนักศึกษาแพทย์เข้าเรียนในโรงเรียนแพทย์กว่า 40 แห่งทั่วประเทศอีก 2,000 คน เป็น 5,000 คน ภายในปีการศึกษาหน้า 

สิ่งนี้นำไปสู่การประท้วงโดยแพทย์ฝึกหัดหลายพันคนที่ได้ยื่นใบลาออกเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่บรรดาอาจารย์แพทย์เริ่มยื่นใบลาออกและลดชั่วโมงทำงานในสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนการหยุดงานประท้วงของแพทย์ฝึกหัด

“ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และผู้ป่วยนั้นต้องอาศัยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เราจะอธิบายให้คนไข้ได้เห็นว่านักการเมืองเหล่านั้นกำลังทำให้เป็นเรื่องยากที่แพทย์จะกลับมารักษาผู้ป่วย และชักชวนคนไข้ของเราไม่ให้ลงคะแนนให้พวกเขา” Lim Hyun-taek กล่าวพร้อมเสริมว่า กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์มีอำนาจในการตัดสินชะตากรรมของผู้แทนราษฎร 20-30 ที่นั่งในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาที่กำลังจะมาถึง

Lim Hyun-taek ยังเน้นย้ำด้วยว่า รัฐบาลควรรับผิดชอบทั้งหมดต่อความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งส่งผลให้บริการทางการแพทย์ต้องหยุดชะงัก พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการเพื่อสนับสนุนให้แพทย์ฝึกหัดและอาจารย์แพทย์ที่หยุดงานประท้วงกลับมาทำงาน

หากรัฐบาลและพรรครัฐบาลมีทัศนคติแบบมองไปข้างหน้าเพื่อแก้ไขปัญหา และหากรัฐบาลถอนนโยบายเพิ่มโควตานักศึกษาแพทย์ หรืออย่างน้อยก็ปรับขอบเขตเสียใหม่ ทางสมาคมการแพทย์เกาหลีก็ยินดีที่จะแก้ไขความกังวลที่เพิ่มขึ้นของประชาชน เกี่ยวกับการหยุดชะงักของบริการทางการแพทย์

อย่างไรก็ตาม พัค มินซู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเน้นย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลจะเดินหน้าปฏิรูปทางการแพทย์ให้เสร็จสิ้น ซึ่งรวมถึงการเพิ่มโควตาการลงทะเบียนเรียนแพทย์ด้วย

“การล้มล้างการตัดสินใจของรัฐบาลจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการรวบรวมความคิดเห็นมากกว่า 130 ครั้ง” ปาร์ค กล่าวระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อ