เสรีนิยมใหม่ ยารักษาโรคเงินเฟ้อและเสริมพละกำลังสหรัฐอเมริกาในช่วงโค้งสุดท้ายของสงครามเย็น
แนวคิดเสรีนิยมใหม่ เป็นแนวคิดทางเศรษฐกิจที่มีมุมมองที่หลากหลาย บ้างก็ว่าเป็นแนวคิดมหัศจรรย์ที่มีคุณค่าในการขับเคลื่อนสังคมเศรษฐกิจให้เจริญไปตามความต้องการและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ บ้างก็ว่าเป็นการส่งเสริมความเหลื่อมล้ำทางสังคมผ่านการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้นไปและมองข้ามกลุ่มคนที่ไม่ได้มีความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจดังกล่าว
ซึ่งตัวแนวคิดเสรีนิยมใหม่ คือ การให้ความสำคัญกับภาคเอกชนให้มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม โดยรัฐจะมีบทบาทในทางเศรษฐกิจที่น้อยที่สุดและให้ความสำคัญในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมผ่านระบบองค์กรภายในประเทศและองค์กรระหว่างประเทศที่มีจุดประสงค์ในการลดข้อจำกัดของการดำเนินกิจการทางเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ เช่น การลดภาษี เขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นต้น
และแนวคิดนี้ก็เริ่มได้รับความนิยมในช่วงเวลาที่ทั่วโลกในช่วงยุค 1970 กำลังเผชิญกับวิกฤตเงินเฟ้อครั้งใหญ่ที่เกิดจากการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐจนขาดดุลรุนแรงในหลายประเทศและวิกฤตน้ำมันที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นมหาศาลและที่สำคัญคือซ้ำเติมอีกรอบหนึ่ง รอบแรกคือช่วงของการคว่ำบาตรน้ำมันโดยชาติตะวันออกกลาง และรอบหลังคือช่วงการปฏิวัติอิหร่านที่ทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้นอีกระลอกหนึ่ง
จึงทำให้เกิดความพยายามที่จะแก้ไขวิกฤตครั้งใหญ่ผ่านแนวคิดการลดภาษีที่เป็นการลดภาระของประชาชน การผ่อนปรนกฎระเบียบทางเศรษฐกิจที่ทำให้เอกชนสามารถดำเนินการได้สะดวกมากขึ้น และตัดการใช้จ่ายของรัฐให้น้อยที่สุดเพื่อลดภาระทางการเงินและให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายในกิจการของรัฐที่จำเป็น ซึ่งตัวลัทธิเสรีนิยมใหม่ก็ถูกไปใช้ในอังกฤษและสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มข้นช่วงยุค 1980
ซึ่งผลกระทบที่ตามมาพร้อมกับการขึ้นดอกเบี้ยมหาศาลของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการแก้ไขวิกฤตเงินเฟ้อทั้งวิธีทางการเงินผ่านธนาคารกลางและวิธีทางการคลังผ่านภาครัฐในช่วงเวลานั้น คือ อัตราการว่างงานที่สูงขึ้นจากโครงการของรัฐที่มีน้อยลง สิทธิสวัสดิการที่ถูกตัดออกไปเพื่อลดภาระรัฐ บทบาทของรัฐที่น้อยลงไปมากจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นของเอกชน แต่ก็แลกกับภาระที่รัฐแบกรับน้อยลงเช่นกัน
และด้วยการส่งเสริมการแข่งขันทั้งลดภาษี รัฐแทรกแซงน้อยลง ผ่อนปรนกฎระเบียบทางเศรษฐกิจเช่นนี้จึงเป็นเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐอเมริกาสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะในการแข่งขันกับประเทศในกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่เริ่มประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจาการใช้งบประมาณสนับสนุนสวัสดิการสังคมมหาศาลรวมทั้งการขาดแรงจูงใจในการพัฒนาขีดความสามารถเมื่อเทียบกับชาติตะวันตกและชาติเศรษฐกิจเกิดใหม่ของทวีปเอเชียที่ได้รับแนวคิดเสรีนิยมใหม่เข้ามาใช้งาน
ซึ่งสุดท้ายแล้วเสรีนิยมใหม่ก็ทำให้สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศทุนนิยมสามารถเอาชนะกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ได้สำเร็จในช่วงโค้งสุดท้ายของสงครามเย็นจากการปรับนโยบายทางเศรษฐกิจของตนแบบสุดขั้วและภาระทางการคลังของประเทศกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่นำโดยสหภาพโซเวียตที่สะสมมาเรื่อย ๆ และส่งผลอย่างร้ายแรงเมื่อราคาพลังงานตกลงอย่างรุนแรงซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของสหภาพโซเวียต
ณ จุดนี้ จึงเป็นการพิสูจน์ครั้งใหญ่ของแนวคิดเสรีนิยมใหม่ที่ทำให้สหรัฐอเมริกาสามารถเอาชนะลัทธิคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่ด้วยการเมืองหรือคุณค่าอุดมการณ์ใด ๆ แต่เป็นการเอาชนะด้วยพลังเศรษฐกิจที่มีเหลือล้นและภาระทางการคลังที่น้อยนิดเมื่อเทียบกับช่วงก่อนยุค 1980 ที่รัฐมีบทบาทในทางเศรษฐกิจสูง
ท่ามกลางของสังคมโลกมาถึงปัจจุบันถึงการมีบทบาทของแนวคิดเสรีนิยมใหม่ที่ได้สร้างความเหลื่อมล้ำในระดับรุนแรงและทอดทิ้งสังคมที่ตามการแข่งขันนี้ไม่ทัน ที่จัดว่าเป็นผลข้างเคียงของยารักษาโรคเงินเฟ้อและโรคขาดดุลทางเศรษฐกิจ เพราะเมื่อบทบาทของรัฐและการควบคุมจากรัฐมีอยู่น้อยจากลัทธิเสรีนิยมใหม่ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในระบบเศรษฐกิจที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
หลายประเทศจึงทยอยลดความเข้มข้นของการใช้นโยบายเสรีนิยมใหม่และเข้าไปแทรกแซงในระบบเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสร้างหลักประกันขั้นต่ำทางสังคมหรือรัฐสวัสดิการหลังช่วงสงครามเย็นสิ้นสุดเป็นต้นมา
สุดท้ายนี้สังคมที่มองว่ารัฐควรมีบทบาทมากในการบริหารประเทศก็ย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายในรูปแบบของภาษีที่สูงมหาศาลเหมือนกลุ่มประเทศตะวันตกช่วงกลางศตวรรษที่ 20 และกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ แต่เมื่อรัฐมีบทบาทน้อย ภาษีที่ต้องจ่ายก็จะน้อยลงมากเพื่อเป็นโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนา และต่อยอดตนเอง เหมือนดังที่บรรดาชาติตะวันตกเคยประสบพบเจอมาก่อนหน้า
ดังนั้น ในบริบททางเศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่แทบจะถอดแบบจากช่วงวิกฤตเงินเฟ้อครั้งใหญ่และวิกฤตราคาน้ำมันสูงในช่วงยุค 1970 อาจจะสรุปได้ว่า
“วิธีการแบบเสรีนิยมใหม่อาจได้กลับมามีบทบาทอีกครั้งหนึ่งในโลก”
โดย ชย
อ้างอิง :
[1] บทเรียนจากยุค Stagflation ปี 1970-1983
[2] ย้อนรอย “The Great Inflation” เหตุการณ์เงินเฟ้อครั้งใหญ่ ในสหรัฐอเมริกา
[3] มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ: ผู้นำหญิงเหล็กที่มีทั้งความสำเร็จและล้มเหลว
[4] โรนัลด์ เรแกนผู้พังทลายอาณาจักรปีศาจ
[5] The Politics of Privatization: How Neoliberalism Took Over US Politics
แมวน้ำใกล้สูญพันธุ์ตายปริศนา ! พบอย่างน้อย 2,500 ตัว เกยตื้นตายชายฝั่งทะเลของรัสเซีย
หาเจอ ให้ 50,000 บาท ! วัสดุกัมมันตรังสี ‘ซีเซียม-137’ หายจากโรงไฟฟ้าปราจีนบุรี หากพบเจอ ห้ามสัมผัส อันตรายอย่างมาก
“โอนเงินเกิน 5 หมื่น-เปลี่ยนวงเงิน” ต้องสแกนหน้า ธปท. เร่งออกมาตรการแก้ปัญหามิจฉาชีพ
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม