เข้ามาได้อย่างไร? ทางการเมียนมาขอสอบสวน 41 คนไทย อีกนิดเดียวก็ปล่อยตัว

17 พ.ย. 66 พ.อ. ณฑี ทิมเสน ผบ.หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการช่วยเหลือคนไทยในเล่าก์ก่าย 41 คนว่าทั้งหมด ขณะนี้อยู่ที่ท่าสามเหลี่ยม จังหวัดเชียงตุง ประเทศเมียนมา ซึ่งทั้งหมดได้รับการดูแลจากกองทัพเมียนมาอย่างดี มีความสุขสบายในระดับหนึ่ง และคิดถึงบ้าน

แต่การดำเนินการยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และติดตามการให้ข้อมูลของกองทัพเมียนมา ว่าทั้งหมดเดินทางเข้ามาได้อย่างไร ทำกันเป็นกระบวนการอย่างไร

พ.อ. ณฑีกล่าวว่ากองทัพภาคที่ 3 และ พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง สั่งการให้ตนซึ่งรับผิดชอบพื้นที่นี้ และในอีกบทบาทหนึ่งประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา ฝ่ายไทย ได้ประสานและสอบถามไปยังเมียนมาว่ายังติดขัดในเรื่องใด และต้องการจะให้กองทัพไทยช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมในการรับตัวคนไทยกลับมาหรือไม่ 

ทางฝั่งไทย กองทัพภาคที่ 3 กองกำลังผาเมือง มณฑลทหารบก 31 หน่วยแพทย์ ค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย รวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีความพร้อมอยู่แล้ว สำหรับการรับตัวคนไทยทั้ง 41 คนจากเชียงตุงมาท่าขี้เหล็ก ใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น

“ขอเพียงได้รับคนไทยกลับมาประเทศไทยอย่างปลอดภัย ขอยืนยันเราจะดำเนินการและทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้ง 2 ประเทศให้มีความแน่นแฟ้นมั่นคงยิ่งขึ้นไป” พ.อ. ณฑีกล่าว อีกทั้งยังระบุด้วยว่า ทางการเมียนมายินดีให้ฝ่ายไทยนำรถไปรับคนไทยที่ท่าขี้เหล็กได้เลย

สำหรับการสอบสวนคนไทยทั้ง 41 คนของทางการเมียนมานั้น เป็นเพราะเล่าก์ก่าย ชายแดนติดกับจีน ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษและมีธุรกิจกลุ่มทุนสีเทา ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งทางกองทัพเมียนมา หรือทางรัฐบาลมีข้อสงสัยว่า เหตุผลหรือขั้นตอน ของคนไทยที่เข้ามาอาจเป็นหลักร้อยคนหรืออาจถึงหลักพัน ก็ยังไม่ทราบตัวเลขแน่ชัด เขาจึงสงสัยว่าเหตุผลประการใด มีกลุ่มกระบวนการฝั่งไทยฝั่งเมียนมา หรือฝั่งไทย อย่างไรถึงทำให้คนไทยกลุ่มนี้เดินทางเข้าไปในเล่าก์ก่าย

นอกจากนี้พื้นที่ของประเทศเมียนมา เป็นพื้นที่พิเศษที่ชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ได้ดูแลอยู่ มีความอ่อนไหวต่อความสัมพันธ์ ทำให้จำเป็นต้องประสานข้อมูลจากกองทัพเมียนมาอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยให้ดีที่สุด และตอนนี้อยากจะให้โฟกัสที่ 41 คนไทยก่อน เพราะเหลือขั้นตอนอีกเพียงนิดเดียวก็จะได้กลับมาแล้ว