สหภาพแรงงานเดนโซ่ ขอบคุณรัฐบาลโครงการ ‘แฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์’ ช่วยปกป้องภาคธุรกิจ จากโควิด-19 ช่วยชีวิตแรงงานให้มีงานทำกว่า 2 ล้านชีวิตชี้ ปีนี้มีกำไร 7.4 หมื่นล้าน จ่ายโบนัสแรงงานถึง 9 เท่า
เมื่อวานนี้ (22 ส.ค. 66) นายอำพล หอมปลื้ม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท เด็นโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด และสหภาพแรงงานเด็นโซ่ประเทศไทย เดินทางเข้าพบนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อเรียนเชิญนายสุชาติเป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองครบรอบ 45 ปี แห่งการก่อตั้งสหภาพเด็นโซ่ ประเทศไทย และหารือเรื่องการดำเนินกิจกรรมของสถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ (AHRDA)
ในการนี้สหภาพแรงงานเด็นโซ่ประเทศไทย แสดงความรู้สึกขอบคุณรัฐบาล และ รมว. แรงงานที่มีมาตรการช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงานจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากการดำเนินโครงการแฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์ จนทำให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
นายสุชาติกล่าวว่าโครงการแฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์ของกระทรวงแรงงาน เป็นนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีที่ให้กระทรวงแรงงาน, มหาดไทย, สาธารณสุข และอุตสาหกรรมบูรณาการร่วมกัน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงปี 2564 ส่งผลให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งเป็นรายได้สําคัญของประเทศได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่โครงการดังกล่าวช่วยรักษาธุรกิจภาคส่งออกที่มีภาคแรงงานกว่า 2 ล้านคน ใน 4 สาขา ได้แก่ อาหาร เครื่องมือแพทย์ ยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จากผลกระทบให้เติบโตได้
โครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินการบนหลักเศรษฐศาสตร์ควบคู่ไปกับสาธารณสุขทั้งการเยียวยา การให้ความช่วยเหลือ การฉีดวัคซีน ตรวจคัดกรองโควิด-19 ทำให้ธุรกิจส่งออกเติบโต ในรอบ 11 ปี ช่วยเหลือสถานประกอบการจนทำให้สามารถรักษาการจ้างงาน และบางบริษัทฯ สามารถจ่ายโบนัสได้ถึง 9 เท่า
ด้านนายอำพลขอบคุณรัฐบาล และพลเอกประยุทธ์ ที่ช่วยเหลือภาคเอกชนจากผลกระทบโควิด-19 จนทำให้วันนี้ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพราะในช่วงโควิด บริษัทแต่ละแห่งได้รับผลกระทบตาม ๆ กัน แต่การดูแลของรัฐบาล ทำให้โรงงานไม่ต้องหยุดการผลิตสามารถผลิตสินค้าและส่งออกได้ต่อเนื่อง
ทำให้ในปีนี้มีรายได้จากการประกอบการรวมกว่า 74,000 ล้านบาท จ่ายโบนัสพนักงานสูงถึง 8.4 – 9.5 เท่า เงินเดือนขึ้นสูงถึง 5.2 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ปากท้องของพี่น้องแรงงานภาคยานยนต์ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงจากความเข้มแข็งที่เกิดจากความร่วมมือจากภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงแรงงานที่สร้างหลักประกันให้พี่น้องแรงงานมีรายได้ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น