‘ผู้ก่อการร้ายทางการเงิน’ มหาเศรษฐีนายธนาคารอินเดีย ชี้เงินดอลลาร์ มีอำนาจมากเกินไปในฐานะสกุลเงินสำรอง
อูเด โกตัก มหาเศรษฐีนักลงทุน และซีอีโอของธนาคารโกตัก มหินทรา (Kotak Mahindra) กล่าวเมื่อวันศุกร์ (28 เม.ย.) ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีอำนาจมากเกินไปในฐานะสกุลเงินสำรอง และโลกจำเป็นต้องมีสกุลเงินสำรองทางเลือกอื่น
ในงานประกาศผลรางวัล Economic Times Awards for Corporate Excellence 2023 นายธนาคารได้กล่าวถึงเงินดอลลาร์ว่าเป็น “ผู้ก่อการร้ายทางการเงินรายใหญ่ที่สุดในโลก”
เนื่องจากทั่วโลกถือครองสินทรัพย์ส่วนใหญ่ในรูปแบบของดอลลาร์ในบัญชีเงินฝาก nostro ที่เปิดไว้กับธนาคารต่างๆ ในสหรัฐฯ สินทรัพย์เหล่านี้จึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบรรดานายธนาคารและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ โกตัก อธิบาย
“ถ้ามีใครบางคนในสหรัฐฯ พูดว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เช้าเป็นต้นไป คุณจะไม่สามารถถอนเงินเหล่านั้น เมื่อนั้นคุณก็ติดแหง็ก นี่แหละคืออำนาจของสกุลเงินสำรอง”
“ดังนั้น โลกจึงจำเป็นต้องดิ้นรนมองหาสกุลเงินสำรองทางเลือกอื่น” โกตัก กล่าว พร้อมแนะนำว่าอินเดียควรถือโอกาสนี้ทำให้เงินรูปีของตนเป็นสกุลเงินสำรอง
“ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลงมือทำ ซึ่งบางทีจะใช้เวลาถึง 10 ปี ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว อินเดียต้องได้รับความไว้วางใจจากผู้เล่นระดับโลกรายอื่นๆ ด้วยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่สถาบันการเงินและกรอบการทำงานที่แข็งแกร่ง ที่ไม่ขึ้นอยู่กับความเพ้อฝันและจินตนาการของใคร ซึ่งผมมองไม่เห็นผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งรายอื่นสำหรับบทบาทนี้”
“ผมไม่คิดว่ายุโรปจะสามารถทำให้สกุลเงินของยุโรปเป็นสกุลเงินสำรองได้ เพราะรัฐต่างๆ ของพวกเขามีความแตกแยก ผมไม่คิดว่าสหราชอาณาจักรหรือญี่ปุ่นมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับสถานะนี้ แม้ว่าทั้งเงินปอนด์และเงินเยนจะเป็นสกุลเงินเสรีก็ตาม ส่วนจีนนั้น ผมคิดว่ามีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความไว้วางใจกับหลายประเทศทั่วโลก” โกตัก กล่าว
ในวันรุ่งขึ้น (29 เม.ย.) โกตัก ได้ทวีตข้อความชี้แจงความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มเติม โดยอธิบายว่า เขาตั้งใจจะสื่อว่าอำนาจที่มากเกินไปของสกุลเงินสำรองหนึ่งๆ ทำให้มันมีศักยภาพควบคุมการทำธุรกรรมทั่วโลก ซึ่งนำไปสู่สถานการณ์ที่ประเทศอื่นอาจต้องพึ่งพาสกุลเงินดังกล่าว
“ในการพูดคุยเมื่อเร็วๆ นี้เกี่ยวกับดอลลาร์สหรัฐฯ ผมไม่ได้มีเจตนาจะใช้คำว่า ‘ก่อการร้ายทางการเงิน‘ ซึ่งผมอยากจะชี้แจงให้ถูกต้อง สิ่งที่ผมหมายถึงคือ ‘สกุลเงินสำรอง (ดอลลาร์) มีอำนาจไม่สมส่วน’ ” ข้อความทวีต ระบุ