
โละรถยนต์ไฟฟ้า 20,000 คัน Hertz บริษัทเช่ารถยักษ์ใหญ่ทิ้งรถ EV รวมถึง Tesla เพื่อหันกลับไปใช้รถยนต์ ‘เครื่องสันดาป’
Hertz Global Holdings บริษัทผู้ให้บริการเช่ารถชั้นนำของสหรัฐฯ ประกาศขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ออกไป 20,000 คัน ซึ่งรวมถึง Tesla และจะหันกลับไปใช้รถยนต์สันดาป (ใช้น้ำมัน) แทน โดยอ้างถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชนและความเสียหายที่สูงกว่าของรถ EV แม้ว่าก่อนหน้านี้บริษัทได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าในฝูงรถเป็น 25% ภายในสิ้นปี 2567 ก็ตาม
คำประกาศดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น Hertz ร่วง 4% ขณะที่ราคาหุ้นของ Tesla ลดลงประมาณ 3%
อดัม โจนาส นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley บริษัทการเงินระดับโลก กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของ Hertz ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ว่าควรจะต้องมีการปรับความคาดหวังที่ผู้บริโภคมีต่อ EV ใหม่
ในขณะที่ผู้บริโภคเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การขับขี่และการประหยัดพลังงานของรถยนต์ไฟฟ้า โจนาส ระบุว่า ยังมีต้นทุนที่ซ่อนอยู่ในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า
Hertz ซึ่งวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจากเทสลาจำนวน 100,000 คันภายในสิ้นปี 2565 และ 65,000 คัน จาก Polestar ภายในระยะเวลา 5 ปี ระบุว่า บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงความสามารถในการทำกำไรสำหรับรถยานยนต์ไฟฟ้าส่วนที่เหลือ
ข้อมูลจาก บริษัทค็อกซ์โอโตโมทีฟ (Cox Automotive) ผู้นำในธุรกิจซื้อขายรถยนต์ในสหรัฐฯ ระบุว่า ราคาขายส่งรถยนต์ไฟฟ้ามือสองลดลงเกือบตลอดปี 2566 เนื่องจากราคารถยนต์ไฟฟ้าใหม่ที่ปรับตัวลดลง และสินค้าคงคลังของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายไม่ออกที่เพิ่มขึ้น โดย Cox ได้คาดการณ์ก่อนการประกาศของ Hertz ว่าราคา EV มือสองจะลดลงมากกว่าราคารถยนต์มือสองโดยรวมในปี 2567
“แม้ว่ารถยนต์ 20,000 คันจะไม่ใช่ตัวเลขที่สูงสำหรับตลาดรถยนต์มือสอง แต่นั่นก็หมายความว่า Hertz จะขาดทุนครั้งใหญ่จากการขายในแต่ละครั้ง และในขณะเดียวกันก็มีส่วนสนับสนุนแนวโน้มการปรับตัวลงต่อของมูลค่ารถ EV มือสอง” คาร์ล เบราเออร์ นักวิเคราะห์ของ iSeeCars.com กล่าว