กรณีการอดอาหารของน้องแบมและตะวัน กับพรรคก้าวไกลที่กระโดดรับกระแสดังกล่าว ขณะที่พรรคเพื่อไทยไม่เล่นไปตามเกมนี้ด้วย
น่าคลายกังวลลงได้บ้างจากที่น้องแบมกับน้องตะวันยอมจิบน้ำ หลังจากที่ทรมานตัวเองอดน้ำอดอาหารอยู่ในเรือนจำจนมีสภาพร่างกายอิดโรยไม่มีเรี่ยวแรง ต้องย้ายมานอนคอยฟังข่าวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ว่าคนข้างนอกเขาว่าอย่างไรกันบ้าง เขาเคลื่อนไหวอะไรกันบ้าง ข้อเรียกร้องของตัวเองจะได้รับการเหลียวแลบ้างหรือไม่
แต่ไม่รู้ว่าจะคิดถึงพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักและห่วงใยอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวข้อเรียกร้องแบบนี้มาก่อนบ้างหรือเปล่า
เชื่อได้ว่าพ่อแม่ของน้องทั้งสองคงจะทุกข์ทรมานใจมากเช่นกัน และคงไม่ตกเป็นเหยื่อของการถูกชวนให้ออกมาประท้วงเหมือนพ่อแม่แกนนำคนอื่นๆ ที่ผ่านมา ก็ได้แต่หวังว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายคงจะดูแลน้องทั้งสองอย่างเต็มที่
———-
หากทำในกรอบกฎหมายก็ไม่เป็นปัญหา
———-
แบมและตะวันถือเป็นผลผลิตที่ถูกกลุ่มนักวิชาการร่วมกับนักการเมือง นักเคลื่อนไหวที่มุ่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ใช้ข้อมูลด้านเดียวแถมบิดเบี้ยวไม่เป็นความจริงมากล่อมเกลา ผลักออกมาเป็นตัวเบี้ยให้เคลื่อนไหวจนก้าวข้ามเส้นที่กฎหมายกำหนด ต้องถูกดำเนินคดีตามตัวบทกฎหมายที่มี
เมื่อเข้าสู่กระบวนการทางคดีก็ได้รับการพิจารณาเหมือนๆ กับผู้ต้องคดีคนอื่นๆ ได้รับการประกันตัวจากศาลแบบมีเงื่อนไขมาตั้งแต่เดือนกลางปี 65 ก็เหมือนผู้ต้องหาคดีอื่นๆ อีกเช่นกัน หายไปราวครึ่งปี อยู่ๆ ก็กลับมาขอถอนประกันเอง พร้อมกับตั้งเงื่อนไขของการอดน้ำอดข้าวเมื่อกลางเดือนมกราคม 66
ถึงตรงนี้อยากชี้สัก 2 ประเด็น ข้อแรกคือ ถ้าน้องแบมและน้องตะวันไม่ละเมิดข้อกฎหมายที่แสดงท่าทีจะไปบุกเข้าไปในวังสระปทุม อยากจะแสดงออกในที่สาธารณะแบบไหน เวลาใด ให้อยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนดก็สามารถทำได้อย่างอิสระเสรี
เหมือนเช่นที่นักการเมืองหรือนักวิชาการที่คอยออกมาชี้แนะ ทำนองยุยงให้เยาวชนที่ไม่รู้เท่าทัน คอยออกหน้าแต่พวกตัวเองคอยหลบอยู่หลังเด็กๆ เราเคยเห็นคนเหล่านี้ถูกจับกุมดำเนินคดีบ้างหรือไม่ ไม่เคยมี เพราะพวกเขารู้ว่าจะพูด จะแสดงอะไรได้แค่ไหน เข้าทำนองรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง
———-
พรรคก้าวไกลกับการเล่นกระแสแบมและตะวัน
———-
ข้อที่สอง ทำไมน้องถึงเลือกเวลานี้มาสร้างเงื่อนไขอดน้ำอดข้าว ทั้งที่เวลาผ่านมาตั้งครึ่งปี หรือใครบอกให้รอเวลาใกล้เลือกตั้งจะดีกว่า จะสามารถสร้างข่าวจุดกระแสให้สังคมสนใจได้มากกว่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
หรือมีใครอยู่ข้างหลังที่จะได้รับผลประโยชน์จากสิ่งที่น้องทำ ลองส่องดูมีกลุ่มไหน คนไหน พรรคการเมืองไหนบ้างที่เข้ามาโหนกระแสเรื่องนี้สำหรับสร้างคะแนนนิยม พรรคก้าวไกลเป็นความหวังของกลุ่มคนและกลุ่มนักวิชาการที่ต้องการเห็นมาตรา 112 ถูกยกเลิกมากที่สุด
ท่าทีที่แสดงออกของพรรคก้าวไกลต่อข้อเรียกร้องของน้องแบม น้องตะวันจึงสำคัญต่อคะแนนเสียงของคนกลุ่มนี้ ก็อยากให้พรรคก้าวไกลออกมาประกาศให้ชัดๆ ว่าจะทำอย่างไรกับมาตรา 112 จะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร
ไม่ใช่คอยหลบตะโกนอยู่หลังม็อบหรือนำเรื่องนี้แค่มาขยายอภิปรายโจมตีรัฐบาล โจมตีศาล หรือคอยแซะสถาบันกษัตริย์ในสภาหากินไปวันๆ เพราะต้องการใช้ข้อบังคับของสภาเป็นเกราะกำบัง หรือแค่ไปยื่นหนังสือถึงศาลกล่าวโทษกระบวนการยุติธรรมออกสื่อเท่านั้น
การประกาศต่อสาธารณะอย่างชัดๆ ว่าพรรคจะยกเลิกมาตรา 112 น่าจะทำให้น้องทั้งสองเห็นเป็นทางที่หวังพึ่งได้ จะได้กลับมาดื่มน้ำทานข้าวรอดูวันฟ้าสีทองผ่องอำไพ
———-
พรรคเพื่อไทยไม่เอาด้วย
———-
พรรคเพื่อไทยเป็นอีกความหวังหนึ่งที่กลุ่มเพื่อนน้องแบมน้องตะวันไปขอให้แสดงท่าทีช่วยยกเลิกมาตรา 112 แต่พรรคเพื่อไทยเลือกที่จะเงียบ เพราะมีประสบการณ์โดนถล่มจากที่คุณอุ๊งอิ๊งบอกว่าจะเลิกมาตรา 112 หรือไม่ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของรัฐสภา แต่เรื่องพาพ่อกลับบ้านสำคัญที่สุด
ทำให้คุณโทนี่คนแดนไกลเจ้าของพรรคตัวจริงต้องออกมาพูดแทนทำนองว่ามาตรา 112 ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่การนำไปใช้ ที่พูดอย่างนี้เพราะรู้ดีว่าคนส่วนใหญ่เขาไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ หากยังดึงดันสนับสนุนต่อไปต้องกระทบต่อยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์แน่นอน
ดีไม่ดีอาจถูกร้องให้ยุบพรรคอีกด้วย ท่าทีของพรรคเพื่อไทยจึงต้องวางเฉย แค่เพียงออกมาแสดงความเห็นใจก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไหนจะต้องมาแก้เกมแก้ตัวกับสิ่งที่คุณจตุพรออกมาแฉพฤติกรรมให้เห็นธาตุแท้ของคุณโทนี่กับพรรคที่เคยทำไว้ก็แย่อยู่แล้ว
———-
กลุ่มนักวิชาการที่พยายามดึงสถาบันลงมาสู่การเมือง
———-
กลุ่มนักวิชาการที่เป็นต้นธารบ่มเพาะเด็กๆ เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ยกขบวนไปที่ทำเนียบองคมนตรีให้คลี่คลายปัญหาการอดข้าวอดอาหาร อ้างว่าองคมนตรีเปรียบเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นความพยายามที่จะดึงให้สถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเป็นคู่กรณีด้วย
ทั้งๆ ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกกลุ่มคนเหล่านี้กระทำจาบจ้วงมาโดยตลอด และไม่เคยคิดหรือทำการใดๆตอบโต้เลย ต้องไม่ลืมว่าอาจารย์กลุ่มนี้เคยเป็นตัวตั้งตัวตีเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ เพื่อลดทอนพระราชอำนาจ ยกเลิกองคมนตรี ยกเลิกกฎมณเฑียรบาล
ตอนนี้ก็อาศัยสถานการณ์จากเหตุอดข้าวอดน้ำมาแซะสถาบันพระมหากษัตริย์อีก
น้องแบมกับน้องตะวันจะรู้หรือไม่ ว่าความจริงแล้วนักวิชาการพวกนี้ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำของน้อง ออกจะตำหนิด้วยซ้ำว่าทำอะไรไร้เดียงสา ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งมากกว่า และคิดว่าอาจจะตายฟรี แต่เมื่อมีกระแสเกิดเล็กน้อยก็ต้องคว้าโหนไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ตกขบวนกลุ่มผูกขาดประชาธิปไตยไว้กับตัวเอง
———-
ให้บทเรียนเป็นเครื่องเตือนใจ
———-
น้องแบม น้องตะวันน่าจะเรียนรู้จากรุ่นพี่ เช่น คุณเพนกวิน คุณทนายอานนท์ คุณรุ้งปนัสยา ที่เคยขึ้นเวทีมาโชกโชน เคยถูกคุมขัง เคยอดน้ำอดอาหารมาก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ออกมาเตือนแล้วว่าไม่มีประโยชน์ที่จะใช้วิธีการแบบนี้
ข้อแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์แบบนี้ควรจะรับมาคิดพิจารณา ไม่ใช่ฟังจากนักการเมือง อาจารย์ นักวิชาการที่ดีแต่ชี้นำ แต่ไม่เคยออกมานำกลุ่มไปเคลื่อนไหว ไม่เคยถูกจับ ไม่เคยถูกคุมขัง จึงไม่เคยอดอาหารอดน้ำ มีแต่อิ่มหนำสำราญคอยเก็บประโยชน์ จากเด็กๆ แบบน้องแบมน้องตะวัน
พรรคการเมืองที่รู้สึกเดือดร้อนกับเรื่องนี้จะปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม ทั้งที่ก็น่าจะช่วยเหลือเหยื่อผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นผู้ต้องหาจากคดีต่างๆ หรือตกเป็นแพะจากการทุจริตของคนในกระบวนการ ซึ่งน่าจะมีอยู่จำนวนหนึ่งด้วยซะเลย
ไม่ใช่คอยแต่จะจ้องยกเลิกมาตรา 112 แล้วอย่างนี้จะให้มองเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เจตนาที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไทย
#TheStrutureColumnist
#แบม #ตะวัน #สถาบันพระมหากษัตริย์
เส้นทางสายการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อ “ซื่อสัตย์และจงรักภักดี” อย่างเดียว ไม่เพียงพอสำหรับสังคมไทยในเวลานี้
“ฮาลาล” สัญลักษณ์แห่งอาหารที่ถูกหลักอนามัยขั้นสุด ไม่ใช่เฉพาะมุสลิม แต่ดีสำหรับทุกคน
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม