NewsHere We Go (88) ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก จากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ที่ส่งผลกระทบต่อโครงการเงินดิจิทัลของรัฐบาล

Here We Go (88) ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก จากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ที่ส่งผลกระทบต่อโครงการเงินดิจิทัลของรัฐบาล

พรรคเพื่อไทยได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ชื่อคุณแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนโปรดของคุณทักษิณ เป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดและถูกต้องของคุณทักษิณและคุณหญิงพจมาน ไม่มีจังหวะเวลาใดจะเหมาะสมเท่าเวลานี้อีกแล้ว ก่อนหน้านี้กระแสการเมืองแรง กระแสทำลายกันและกันแรง แต่พอพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาล พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน 2 เดือนที่คุณเศรษฐาบริหารบ้านเมือง พรรคเพื่อไทยโชว์ฝีมือระดับสอบผ่านได้สบายๆ 

 

ทั้งเรื่องในประเทศและต่างประเทศ ทำให้การเมืองเบาลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีม็อบ ไม่มีกระแสโซเชี่ยลที่จะมาห้ำหั่นนักการเมืองหน้าใหม่หรือหน้าเก่า ยิ่งคุณพิธาประสบชะตากรรม ไม่รู้คดีจะออกอย่างไร พรรคก้าวไกลก็ไม่มีตัวแทนมาทดแทนคุณพิธาได้เสียอีก คุณสิริกัญญาก็เบาและนิ่มไปหน่อยเทียบกับคุณแพทองธารแล้วยังห่างกันพอสมควร คุณชัยธวัชก็ไม่ใช่ ภาพสามทหารเสือธนาธร ปิยบุตร ชัยธวัช ที่เล่นการเมืองแบบสุดโต่ง คนไทยกลัวยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น

 

คุณแพทองธารจึงมีความโดดเด่นอย่างหาคู่เปรียบได้ยาก ทายาทคุณทักษิณได้เปรียบความนิยมในหมู่คนเสื้อแดงและคนรากหญ้าอย่างไม่เสื่อมคลายอยู่แล้ว เป็นความได้เปรียบอย่างมาก เปิดตัวปั๊บ ต้นทุนคะแนนเสียงเห็นได้เลยว่าสูงมาก ขนาดนักการเมืองเก๋าๆ ข้าราชการระดับสูง ระดับปลัดกระทรวงมหาดไทย รอง ผบ.ตำรวจ ยังนั่งคุกเข่า เอ่ยปากฝากเนื้อฝากตัว แล้วจะไปเหลืออะไร เหลืออย่างเดียวจะแย่งชิงคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ได้อย่างไร 

 

เรื่องนี้ไม่น่ายาก คุณทักษิณเก่งอยู่แล้ว สามารถออกแบบโครงการหรืองานให้คุณแพทองธารหาเสียงกับคนรุ่นใหม่ได้ ความริเริ่มเรื่อง soft power เป็นกุญแจสำคัญอย่างหนึ่งสามารถแตกยอด กิ่งก้านสาขา ให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมและได้ประโยชน์ คุณแพทองธารสามารถใช้โครงการนี้สร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับได้ไม่ยากนัก 

 

ที่สำคัญความสามารถส่วนตัว การพูดจา ไหวพริบ การโต้ตอบ บุคลิกไม่ธรรมดา เชื่อได้ว่าเวลาไม่เกิน 1 ปีจะได้เห็นศักยภาพของเธอโดดเด่นกว่าปี พ.ศ.นี้มาก พรรคเพื่อไทยยุคใหม่กำลังมาถึงและมีสัญญาณของความแข็งแกร่งมากขึ้น

 

 

แต่ตอนนี้อยากให้ทุกคนติดตามเรื่องสำคัญ 2 เรื่องที่อาจจะส่งผลมาถึงคนไทยทุกคนอย่างไม่คาดคิด เรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในต่างประเทศคือ สงครามระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ อีกเรื่องกำลังจะเกิดในไทยคือ โครงการแจกเงินดิจิทัลมูลค่า 5.6 แสนล้านบาท คำถามคือทำไมทั้ง 2 เรื่องนี้มาเกี่ยวข้องกันได้ มาดูกัน

 

เรื่องสงครามที่อิสราเอลมีคนไทยต้องเสียชีวิต บาดเจ็บและยังคงถูกจับเป็นตัวประกันอยู่อีกจำนวนมาก อาจกล่าวได้ว่าความสูญเสียเกิดกับแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ที่อิสราเอลมากกว่าทุกประเทศ ทั้งๆที่ไทยไม่ได้เป็นคู่กรณีไม่ว่าจะโดยข้อขัดแย้งทางการเมืองหรือทางศาสนา แต่ด้วยเหตุอันใดไม่ชัดเจนคนไทยกลับกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มฮามาสไปทันที 

 

มีกูรูทางด้านต่างประเทศวิจารณ์ว่า เป็นเพราะความไวของนายกไทยคุณเศรษฐาที่ใช้การสื่อสารทางโซเชี่ยลมีเดียประณามการกระทำของกลุ่มฮามาสแทบจะทันทีที่เกิดเหตุโดยไม่ได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศก่อนทำให้กลุ่มฮามาสและประเทศกลุ่มมุสลิมไม่พอใจ บ้างก็บอกว่าเป็นเพราะรัฐมนตรีต่างประเทศคุณปานปรีย์ทำงานช้าไปไม่ได้หารือกับคุณเศรษฐาก่อน 

 

ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดรัฐบาลคงต้องติดตามเหตุการณ์แบบนาทีต่อนาที ทุกฝ่ายคงต้องร่วมประเมินว่าสงครามจะขยายวงกว้างกว่านี้หรือไม่ ทั้ง 2 ฝ่ายจะคำนึงถึงความอยู่รอดของตัวประกันหรือเปล่า หรือจะใช้ตัวประกันเป็นเหยื่อสร้างความชอบธรรมหรือป้ายความผิดให้อีกฝ่ายเพื่อสร้างความได้เปรียบในการรบ จัดว่าเป็นบททดสอบงานด้านต่างประเทศที่ยากของรัฐบาลนี้

 

เรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัลคนละ 1 หมื่นบาท มีเสียงท้วงติง เสียงแสดงความห่วงกังวลต่ออนาคตดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องแสดงความไม่เห็นด้วยก็มากขึ้น ข้อคำถามที่สงสัยคาใจและอยากได้รับคำตอบก็เพิ่มขึ้น หนำซ้ำ ป.ป.ช.ยังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบจับผิดโครงการนี้อีก ทุกอย่างดูเหมือนเป็นอุปสรรคไปหมด มีแต่คุณเศรษฐา และพลพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ยืนยันสนับสนุนเดินหน้าโครงการต่อไม่ลดละ 

 

แต่เริ่มมีสัญญาณที่อาจจะลดเงื่อนไข ปรับรูปแบบ ขยายเวลาวันเริ่มโครงการออกไปบ้าง ยังถือว่าเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นทั้งบวกและลบ อยากเห็นทุกฝ่ายทุกกลุ่มออกมาแสดงความเห็นกันให้มากๆถ้ารัฐบาลรับฟังและนำไปปรับคงจะเป็นประโยชน์ในภาพรวม ไม่ใช่ดื้อแพ่งจะทำทั้งที่อาจผิดข้อกฎหมาย ถึงตอนนั้นพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะโดดเรือหนี ไม่ร่วมรับผิดชอบด้วย วันประชุม ครม.ที่มีวาระเรื่องนี้อาจมีรัฐมนตรีโดดประชุมกันถ้วนหน้า

 

ทั้ง 2 เรื่องอาจเกี่ยวข้องกันถ้าสงครามอิสราเอลกับปาเลสไตน์ขยายวงกว้างออกไป มีมหาอำนาจชาติตะวันตกและกลุ่มประเทศมุสลิมเข้าพัวพัน เพราะมันจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเหมือนกับตอนที่เกิดโรคโควิดระบาดและสงครามยูเครน รัฐบาลคุณประยุทธ์ต้องเร่งจัดหางบประมาณเพื่อดูแลกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ 

 

หากวงจรภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกกลับมาอีกหลังจากที่รัฐบาลคุณเศรษฐานำเงินกู้ 5.6 แสนล้าน (ซึ่งยังไม่รู้ชัดเจนว่าจะไปหาเงินจำนวนนี้มาจากไหน) ไปใช้กับโครงการแจกเงินดิจิทัลแล้ว จะหาเงินจากที่ไหนมาดูแลกลุ่มเปราะบางในช่วงเวลานั้นอีก หรือจะเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนโครงการนี้ออกไป รัฐบาลจะยอมเสียเครดิตทางการเมืองหรือไม่ คงต้องติดตามดู   

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า