NewsHere We Go 72 “สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน” เปิดปมพฤติกรรม ‘พิธา’ และสมาชิก ‘ก้าวไกล’ ที่สร้างความลำบากใจแก่ทั้ง ส.ว. และ ส.ส. ในสภา

Here We Go 72 “สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน” เปิดปมพฤติกรรม ‘พิธา’ และสมาชิก ‘ก้าวไกล’ ที่สร้างความลำบากใจแก่ทั้ง ส.ว. และ ส.ส. ในสภา

ภายในไม่ช้านี้คนไทยจะได้เห็นหน้าตาของนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังคาดเดาไม่ออกว่าใครจะถูกเสนอชื่อเข้ามาให้เลือก รู้แต่ว่าหากยังยืนยันว่าเป็นคุณพิธาจากพรรคก้าวไกล น่าจะมีอุปสรรคขวากหนามขวางหน้าอยู่หลายด่าน 

 

นอกจากเสียง ส.ส.และส.ว.ในสภาที่วิจารณ์ถึงคุณสมบัติเฉพาะตัวของคุณพิธาที่ถูกตั้งข้อสงสัยหลายเรื่องตั้งแต่ถือหุ้นสื่อ itv การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน เหล่านี้ยังไม่ได้ทำให้เกิดความชัดแจ้งต่อหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบแล้วจะทำให้คนที่พร้อมจะยกมือสนับสนุนตั้งแต่แรก เชื่อในความโปร่งใสได้อย่างไร 

 

ยังมีเรื่องแนวนโยบายของพรรคที่ระยะหลังๆออกมาพูดแต่ละเรื่องสร้างความหวาดกลัวหวาดกังวลทั้งต่อ ส.ส.และ ส.ว. ไปจนถึงประชาชนที่ได้รับรู้รับฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยกเลิกมาตรา 112 เปลี่ยนวันชาติจาก 5 ธันวาคมเป็น 24 มิถุนายน เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมโยงกับคณะก่อการล้านนาไทยที่ต้องการแยกภาคเหนือออกเป็นอิสระ 

 

มีคลิปของคุณธนาธรที่ออกมาพูดชี้นำการแยกปกครองตนเอง ที่กล่าวมาทั้งหมดเกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกลแทบทั้งสิ้น เรื่องที่หาเสียงว่าจะแก้ปัญหาปากท้อง เพิ่มสวัสดิการให้ประชาชนอยู่ดีกินดี จะทำให้ประเทศก้าวหน้าเข้มแข็งทางเศรษฐกิจไม่เคยออกมาพูดอีกเลย   

 

 พฤติกรรมของคุณพิธาและพรรคก้าวไกล ทำให้คนไทยกลัวว่าในอนาคตประเทศจะไม่มีความสงบสุขอีกแล้ว เรื่องที่พรรคก้าวไกลคิดจะทำหลังจากเป็นรัฐบาล จะทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างร้าวลึกในสังคมทุกกลุ่มทุกชนชั้น ไม่ว่าจะเป็นสังคมครอบครัว ในโรงเรียน สถาบันการศึกษา ในที่ทำงาน 

 

จะทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนไทยด้วยกันในทุกหย่อมหญ้า ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน  ทำให้ ส.ว. ที่คิดจะสนับสนุนคุณพิธา ตามผลคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้ก้าวไกล ต้องกลับมาทบทวนกันใหม่ เพราะไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศต้องเกิดปัญหาใหญ่ตามมา

 

———-

 

อยากจะยกตัวอย่างเรื่องประกาศแยกดินแดนของกลุ่มขบวนการนักศึกษาแห่งชาติเมื่อต้น มิ.ย. นอกจากจะได้แรงบันดาลใจจากการหาเสียงของบางพรรคการเมือง ที่กำลังจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล รับจะผลักดันการแยกตัวเป็นรัฐปาตานีแล้ว ยังเชื่อในแนวคิดของพรรคก้าวไกลที่จะปรับกระบวนการเจรจาสันติสุขให้เป็นการเจรจาสันติภาพและนำต่างประเทศเข้ามาร่วมในการเจรจา

 

เหมือนบ่งบอกว่าโอกาสของการแยกตัวเป็นอิสระจะประสบความสำเร็จ กิจกรรมของนักศึกษากลุ่มนี้จึงเกิดขึ้น และที่แย่กว่านั้นคือ นับตั้งแต่ออกมาประกาศแนวทางขอแยกตัวเป็นอิสระที่สอดคล้องกับนโยบายข้างต้นเป็นต้นมา สถิติเหตุการณ์รุนแรงรายวันกลับเกิดขึ้นมากกว่าช่วงก่อนการเลือกตั้งเสียอีก มีเจ้าหน้าที่ พระ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตต่อเนื่องเรื่อยมา

 

การเจรจาของคณะกรรมการพิเศษที่รัฐบาลคุณประยุทธ์ตั้งขึ้นมาต้องชะงักลง เพราะฝ่ายก่อเหตุไม่ยอมเจรจาต่อ จะรอให้รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคก้าวไกลขึ้นมาบริหารประเทศก่อนเนื่องจากเห็นโอกาสที่เป็นประโยชน์กับตนมากกว่า 

 

ระหว่างนี้ก็ใช้การก่อเหตุรุนแรงไปเรื่อย เพื่อบอกให้รัฐบาลใหม่รู้ว่าต้องเร่งทำตามคำพูดที่หาเสียงไว้โดยเร็ว สงสารก็แต่คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดวิตกตลอดเวลา ยังดีที่มีในหลวงและพระราชินีที่ทรงห่วงใยดูแลพระราชทานความช่วยเหลือทุกด้านแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าอย่างเสมอภาค ทำให้ทุกคนยังมีหลักยึดมีกำลังใจไม่ทิ้งถิ่นที่อาศัย

 

และไม่ต้องรอไปนาน จับตาดูในวันที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคงจะมีกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ ทั้งผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร สุราพื้นบ้าน กลุ่มนักศึกษา นักเรียน กลุ่มเพศทางเลือก หรือแม้แต่กลุ่มที่เคยชุมนุมทางการเมืองกับพรรคก้าวไกลเตรียมที่จะจัดชุมนุมที่หน้ารัฐสภากันแล้ว 

 

ต้องการกดดันบีบบังคับให้ทุกคนต้องสนับสนุนโหวตลงคะแนนให้คุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ หากไม่เป็นตามที่หวังคงจะต้องออกมาชุมนุมกันอีก ถึงตอนนั้นอะไรจะเกิดขึ้นก็ยังคาดเดาไม่ออก บรรยากาศเมืองไทยที่เคยสงบสุขเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกจะยังคงเป็นเช่นนั้นอีกหรือเปล่า

 

———-

 

ยังไม่เคยได้ยินคุณพิธาหรือพรรคก้าวไกลออกมาพูดสร้างพลังบวก สร้างพลังความสามัคคีของคนไทย สร้างมิตรภาพกับคนทุกกลุ่มเพื่อนำพาคนไทยก้าวผ่านพ้นอุปสรรคไปด้วยกันเลย 

 

มีแต่ย้ำเรื่องการแก้แค้น ข่มขู่ ดูแคลนกลุ่มที่เห็นต่าง สื่อสารข้อมูลเชิง hate speech หล่อเลี้ยงด้อมไว้สนับสนุนขับเคลื่อนการเมืองไทยและคอยจัดทัวร์ไปลงถล่มคู่ต่อสู้ทางการเมืองอีกทางหนึ่ง ถ้าหากเป็นแบบนี้เชื่อได้ 100% ว่า ความสงบคงจบลงแค่ยุคลุงตู่ และความขัดแย้งจะรุนแรงในยุคก้าวไกลแทน

 

เมื่อเรื่องราวการเมืองเป็นเช่นนี้ ส.ส. และ ส.ว. จึงกลายเป็นปัจจัยตัดสินตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะชื่อพิธาหรือไม่ เคยเสนอความเห็นไปว่า ทำไม ส.ส.ไม่รวมตัวกันสนับสนุนคุณพิธาทั้ง 500 คน เพื่อไม่ต้องพึ่ง ส.ว. ให้ลำบากใจหรือต้องฝืนใจไปอ้อนวอน ส.ว. ให้มาลงมติสนับสนุน 

 

———-

 

แต่เมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยมาจนถึงเดือนกรกฎาคม นี้ ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า ส.ส. จำนวนมากในสภาดูเหมือนไม่อยากได้คุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะอะไร ลองกลับไปย้อนอ่านตอนต้นของ HWG นี้ ก็จะพบว่า พฤติกรรมของคุณพิธาหนึ่ง พฤติกรรมของ ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคนหนึ่ง พฤติกรรมของว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลหนึ่ง 

 

ไม่ใช่พฤติกรรมของตัวบุคคลเท่านั้น แต่รวมไปถึงนโยบายของพรรคที่จะกลายเป็นนโยบายของรัฐบาล มีเสียงค้านอึงคะนึง มีเสียงวิจารณ์ทางลบอย่างยิ่งต่อนโยบายเศรษฐกิจที่ว่าที่รัฐมนตรีคลังได้พูดไว้ต่างกรรมต่างวาระ ความเชื่อมั่นต่อทิศทางเศรษฐกิจของรัฐบาลแทบจะหมดไปสิ้น 

 

มีคำถามมากมายต่อนโยบายต่างประเทศทั้งความสัมพันธ์กับมหาอำนาจ ความสัมพันธ์ในภูมิภาค หรือความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน มีความสงสัยและความขุ่นมัวในความรู้สึกต่อนโยบายระบอบการปกครองของประเทศ การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ความรู้สึกเจ็บลึกและรุนแรงต่อนโยบายแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ที่มีความเสี่ยงต่อเอกราชของชาติ 

 

และยังมีอีกหลายเรื่องที่นำพาให้ ส.ส. ไม่รวมตัวกันโหวตสนับสนุนคุณพิธาให้เป็นนายกรัฐมนตรี ลองไปค้นหาคลิปของหัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรคพูดถึงพรรคก้าวไกลไว้ ก็จะเห็นนัยของความไม่ไว้วางใจ เวลานี้จึงต้องหันมาพึ่งบริการ ส.ว.

 

———-

 

วันนี้และต่อไปในอีกหลายๆ วันไปจนถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรี แรงกดดันคงไปอยู่ที่ ส.ส. พรรคการเมือง และ ส.ว. มีผู้สันทัดกรณีการเมืองหลายคนให้ความเห็นกันไว้ต่างๆ นานา ขึ้นอยู่กับว่าเชียร์ใครและพรรคใด ด้อมส้ม ด้อมแดง ด้อมเหลือง มีทั้งขู่ ทั้งด่าทอ อีกฝ่ายที่ไม่สนับสนุนคนที่ตัวเองเชียร์ 

 

พรรคเพื่อไทยโดนหนักสาหัส เพราะไม่โอนอ่อนผ่อนตามยอมยกประธานสภาผู้แทนให้ก้าวไกล และทำท่าทางมีโอกาสจะเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเองหรือถึงเปลี่ยนขั้วพรรครัฐบาลเสียด้วย 

 

พรรคเพื่อไทยตกอยู่ในฐานะจะว่าเป็นต่อก็เป็นต่อจะว่าเป็นรองก็เป็นรอง เป็นต่อเพราะเลือกได้ มีเพื่อนในสภามากกว่าก้าวไกล ประชาชนเชื่อใจมากกว่าก้าวไกล แต่เป็นรองเพราะจะเขี่ยก้าวไกลทิ้งโดยไม่มีเหตุผลพอก็อาจพังในการเลือกตั้งสมัยหน้า เหตุผลนี้กองเชียร์ก้าวไกลขู่แล้วขู่อีก เพื่อไทยก็กลัวจริงๆ เสียด้วย จึงไม่ทำอะไรแบบตัดบัวไม่เหลือใย

 

ครั้นจะโอนอ่อนผ่อนตาม เพื่อไทยก็ลำบากใจ เพราะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติที่ก้าวไกลเลือกมา กลายเป็นคนที่เคยมีพฤติกรรมดูหมิ่นก้าวล่วงในหลวงรัชกาลที่ 9 และสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งที่แจ้งและที่ลับ จะปล่อยให้คนแบบนี้มาเป็นประธานรัฐสภา เห็นทีเพื่อไทยจะกลายเป็นพรรคที่ทำให้ชาติบ้านเมืองพินาศในอนาคต สุดท้ายต้องดูใจเพื่อไทยจะเลือกเดินทางใด

 

———-

 

ในฝั่ง ส.ว. แรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาหาอาจมีมากกว่าเพื่อไทย เพราะถูกปั่นอารมณ์มาหลายปีแล้วว่าเป็นส่วนเกินของประชาธิปไตย เป็นผลพวงเผด็จการ เป็นพวกที่ไม่เห็นหัวประชาชน ขัดขวางเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกก้าวไกลเข้ามา 

 

ช่วงนี้สังคมคงได้เห็นได้ยิน แรงกดดันให้ ส.ว.ลงมติสนับสนุนคุณพิธา ด้วยเหตุว่าเมื่อปี 2562 ส.ว. โหวตสนับสนุนคุณประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะสามารถรวมเสียงในสภาผู้แทนได้เกินกึ่งหนึ่ง ดังนั้นการโหวตให้คุณพิธาครั้งนี้ ส.ว. ก็ต้องใช้เหตุผลเดียวกัน 

 

ก้าวไกลสามารถรวมเสียงในสภาผู้แทนได้ถึงสามร้อยกว่าเสียงเกินครึ่ง มากกว่าสมัยคุณประยุทธ์เสียอีก ส.ว.ไม่มีทางเลือกอื่นต้องโหวตให้คุณพิธาเท่านั้น สังคมก็เริ่มถกเถียงกันว่าตรรกะเช่นนี้ถูกหรือไม่ 

 

เหตุผลที่อธิบายข้อถกเถียงนี้ก็ขึ้นอยู่กับใครเชียร์ใคร ใครมองปัจจัยประกอบที่เป็นเหตุเป็นผลอย่างไร พฤติกรรมคุณประยุทธ์กับคุณพิธาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร พฤติกรรมของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลสมัยนั้นเหมือนกันหรือต่างกับพฤติกรรมของพรรคก้าวไกลหรือไม่อย่างไร นโยบายรัฐบาลปี 2562 เหมือนกันหรือต่างกันกับก้าวไกลหรือไม่อย่างไร 

 

สองฝ่ายต่างก็หาคำอธิบายมาสนับสนุนตนเอง แต่สรุปแล้วก็คือ ส.ว. ต้องแบกรับแรงกดดันหนักหน่วงนี้ ต้องแบกรับอนาคตของชาติบ้านเมือง ต้องชั่งน้ำหนักทางเลือกของตัวเอง ทางใดดีต่อบ้านเมือง ทางใดเสียหายต่อบ้านเมือง ทุกฝ่ายที่มีส่วนในเรื่องของบ้านเมือง ขอให้เอาบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง คิดถึงประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศเป็นศูนย์กลาง บ้านเมืองก็จะมีทางออกในที่สุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมและความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า