Here We Go ความเงียบที่ผิดปกติของ ‘พรรคก้าวไกล’ ต่อกรณีการรับโทษของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’

ระเบียบกรมราชทัณฑ์ใหม่ว่าด้วยเรื่องการคุมขังนอกสถานที่ที่กระทรวงยุติธรรมประกาศเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 กำลังถูกวิจารณ์เป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าวิตก คนไทยทุกคนต่างก็มองว่าระเบียบนี้ออกมาเพื่อช่วยคุณทักษิณนักโทษเด็ดขาดที่ยอมเดินทางกลับมารับโทษในประเทศแต่ยังไม่เคยเข้าเรือนจำแม้แต่วินาทีเดียว 

ซึ่งทางตำรวจบอกว่ายังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ไม่มีฝ่ายใดในกระบวนการยุติธรรมตอบได้ชัดเจนเลยว่าตอนนี้คุณทักษิณเป็นอย่างไร อาการป่วยเป็นอย่างไร สถานภาพการเป็นนักโทษเป็นอย่างไร แม้แต่คนในครอบครัวก็บอกไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างโยนลูกให้อีกฝ่ายหนึ่งตอบแทน เป็นภาพของความยุติธรรมที่เบลอๆ กลายเป็นเรื่องขบขันของสื่อต่างประเทศที่ติดตามเรื่องนี้ แต่คนไทยรู้สึกวังเวงอย่างยิ่ง

กรณีคุณทักษิณได้สร้างความเสียหายอย่างยิ่งต่อกระบวนการอำนวยความยุติธรรมของประเทศนี้ กฎหมายใด ระเบียบใดที่มีอยู่ ถูกใช้เป็นเหตุผลแก้ต่างกรณีคุณทักษิณไม่เข้าไปรับโทษในเรือนจำ โดยเฉพาะการอ้างอาการเจ็บป่วยหนักจนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ 

ระเบียบใหม่ที่ออกมาถูกตีความว่าเอื้อประโยชน์ให้คุณทักษิณอีกจะชี้แจงยกเหตุผลร้อยแปดพันประการคนไทยไม่เชื่อเช่นกัน ความยุติธรรมไม่มีจริง ความเสมอภาคเท่าเทียมในกระบวนการยุติธรรมไม่มีจริง เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของความเลวร้ายในกระบวนการยุติธรรม

คุณทักษิณไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษเพิ่มเติมในวาระสำคัญที่ผ่านมา โทษปัจจุบันจึงมีอยู่ 1 ปี ตอนนี้รับโทษมาเกือบ 120 วัน  โดยไม่เคยเข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว วิจารณ์กันว่าอาจได้รับการพักโทษเมื่อรับโทษครบ 6 เดือนคือวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 หรืออาจได้ประโยชน์จากระเบียบกรมราชทัณฑ์ให้ใช้บ้านเป็นสถานที่คุมขังได้ก่อนถึงวันที่จะเข้าเกณฑ์พักการลงโทษ 

คือสรุปว่าคุณทักษิณจะไม่ต้องกลับเข้าเรือนจำอย่างที่คนไทยรักความยุติธรรมอยากเห็น มีคนหลายกลุ่มพยายามใช้ข้อกฎหมายทุกวิถีทางเพื่อให้คุณทักษิณถูกส่งกลับเรือนจำ แต่เชื่อเถอะไม่มีวันสำเร็จถ้าคุณทักษิณไม่ยินยอม จะมีคนใช้กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับช่วยคุณทักษิณ กรณีจึงขึ้นอยู่กับคุณทักษิณเท่านั้น

—-

ตอนนี้คนที่จะได้รับผลกระทบจากกรณีคุณทักษิณมากที่สุดคือ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพราะมีอำนาจหน้าที่ส่งตัวคุณทักษิณไปรับการรักษา มีอำนาจหน้าที่สั่งให้นำคุณทักษิณกลับเข้าเรือนจำ มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอาการป่วยของคุณทักษิณ มีคนจ้องเอาผิดท่าน ผบ.เรือนจำอยู่ในเวลานี้ 

จึงมีคำแนะนำถึงท่าน ผบ.ให้ใช้ความกล้าหาญทำหนังสือเสนอความเห็นถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในวาระที่จะครบ 120 วันที่รักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ให้ข้อมูลที่เป็นจริงของคุณทักษิณและเห็นว่าคุณทักษิณสามารถกลับเข้าไปรักษาตัวในเรือนจำได้ 

ส่วนผู้มีอำนาจเหนือกว่าท่านจะเห็นอย่างไรก็พ้นภาระท่านแล้ว ท่าน ผบ.จะรอดจากทุกข้อกล่าวหาและข้อครหาและท่านจะมีความภูมิใจอย่างที่สุดที่ได้ทำหน้าที่ข้าราชการที่ดีของแผ่นดินและทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว 

—

แม้แต่นักการเมืองอย่างคุณจุรินทร์ออกมาแสดงความเห็นได้น่าสนใจทำนองว่าคำสั่งกรมราชทัณฑ์มีอำนาจมากกว่าคำสั่งศาล ในอนาคตคุกจะมีไว้ขังเฉพาะคนจนกับคนไม่มีอำนาจ น่าแปลกมากที่ สส.ในฐานะตัวแทนของประชาชนที่ต้องดูแลแก้ปัญหาให้คนทั้งประเทศทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างมองไม่เห็นถึงความเหลื่อมล้ำของกระบวนการยุติธรรมที่ทำให้ต้นทุนชีวิตของคนไม่เท่ากัน 

คนจนขโมยถ่านหุงต้มเพราะไม่มีกินมีความผิดต้องติดคุกในเรือนจำ คนรวยทุจริตคอรัปชั่นหมื่นล้านแสนล้านเลือกได้ที่จะถูกคุมขังที่บ้านแทน รัฐบาลมัวแต่ไปลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้คนจน แต่กลับเมินเฉยเรื่องช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางยุติธรรม ความอึดอัดของคนในสังคมเริ่มมีให้เห็น สะท้อนออกทางสื่อโซเชียลมากขึ้นทุกขณะ ระวังจะลุกลามเป็นคลื่นมหาชนเหมือนที่ผ่านมา

น่าแปลกที่พรรคก้าวไกลเลือกที่จะเงียบกับประเด็นนี้ คุณพิธาพูดผ่านสื่อย้ำถึงความเชื่อที่ว่าประกาศนี้ไม่ได้เอื้อให้คุณทักษิณ หรือเป็นเพราะจะแลกกับเสียงสนับสนุนร่าง พรบ.นิรโทษกรรม พรรคเพื่อไทยที่ทำเพื่อ ส.ส.ของพรรคที่จ่อคิวโดนคดีความมั่นคงอีกหลายคน 

คงต้องฝากความหวังไว้ที่คุณชัยชนะ เดชเดโช ที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ ดูท่าทีเอาจริงเอาจังกับกรณีนี้ ให้สมกับที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชั่นยุครัฐบาลคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์มาโดยตลอด หวังว่าจะไม่ทำเพื่อสร้างน้ำหนักต่อรองหวังให้พรรคเพื่อไทยเชิญเข้าร่วมรัฐบาลตามที่เขาลือกัน