คนเลวต้องไม่มีที่ยืน!!! ครีเอทีฟของผู้ว่าฯ ชัชชาติเล่าวินาทีสำคัญ ลูกสาวโดนคุกคามทางเพศจากนักเขียนดัง ที่ดูรักครอบครัว ชี้จะเล่นงานจนถึงที่สุด
สืบเนื่องจากวันที่ 29 มิ.ย.2566 นายประกิต กอบกิจวัฒนา ฝ่ายกลยุทธ์การสื่อสารทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ และผู้อยู่เบื้องหลังการปั้นแบรนด์ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ปี 2565
ได้ออกมาโพสต์เฟสบุ๊ค Prakit Kobkijwattana บรรยายถึงเหตุการณ์อันเลวร้าย ที่ลูกสาวของตน โดนบรรณาธิการหนังสือชื่อดัง กระทำอนาจารและพยายามล่วงละเมิดทางเพศ โดยมีรายละเอียดดังนี้
“คนเลวเยี่ยงนี้ในวงการนักเขียนและแวดวงศิลปะ ต้องไม่เหลือที่ยืนให้”
หลายวันมานี้ ผมไปสถานีตำรวจเป็นเพื่อนลูกสาว เพื่อดำเนินคดีฟ้องคนที่เรียกตัวเองว่าบรรณาธิการหนังสือคนหนึ่ง (ชื่อเล่น ต.) ในข้อหากระทำอนาจารและพยายามจะล่วงละเมิดทางเพศ
(ขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียด เพราะให้ปากคำตำรวจไปหมดแล้ว ซึ่งตำรวจรับเป็นคดีและกำลังออกหมายเรียกให้มารับทราบ ซึ่งถึงตอนนี้นักสืบโซเชี่ยลหลายคนคงทราบว่าเขาคือใคร)
ผมหมั่นเตือนลูกให้ระวังตัวเสมอ เวลาไปไหนดึกๆ เพราะกลัวภัยจากคนที่เราไม่รู้จัก แต่กลายเป็นว่า คนที่อยู่ในวงการนักเขียน มีความใกล้ชิดในฐานะมิตรสหายที่พบปะกันตามงานต่างๆ
คนที่ทำตัวเป็น “แฟมิลี่แมน” ต่อหน้าวงสังคม คนนี้ต่างหาก ที่เป็นบุคคลอันตราย
สาเหตุที่ทำให้ลูกสาวผมไปใกล้ชิดกับบุคคลนี้ เกิดจากความเชื่อใจ ไว้ใจ เห็นหน้ารู้จักกันมานานพอสมควร และลูกสาวผมชื่นชมบุคคลนี้ในความเป็นมืออาชีพ และการมีภาพครอบครัวที่น่ารัก จึงเอาโปรเจคท์สำคัญ เกี่ยวกับการพาเหล่านักเขียนไปพักที่เชียงใหม่ มาปรึกษาและขอให้บุคคลนี้ทำหน้าที่บรรณาธิการ
แต่แล้ว บุคคลนี้กลับใช้ความไว้ใจของลูกสาวผม เป็นเหยื่อล่อล่วง ด้วยวาจาที่ส่อถึงเจตนาต้องการละเมิดทางเพศ ทั้งยังพาดพิงถึงหญิงสาวคนอื่นในทางเสียหาย
เมื่อลูกบอกให้ผมรู้ถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น ผมส่งข่าวให้ทางครอบครัวของคนนี้รู้ทันที เพราะต้องการให้เห็นความน่ารังเกียจและขยะแขยงที่เขาแสดงต่อลูกผม
ผมตระหนักนะว่าครอบครัวเขาก็เจ็บปวด ที่รับรู้เรื่องนี้ แต่การกระทำของเขา ผมให้อภัยไม่ได้
ผมมักคิดกับตัวเองบ่อยๆ ว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้วจะส่งผลอย่างไรกับลูกสาว คนที่กระทำควรได้รับผลลัพธ์อย่างไร? แต่ผมคิดว่านั่นไม่สำคัญแล้ว ผมบอกกับลูกสาวว่าไม่ต้องกลัว เรื่องนี้พ่อจะช่วยให้ถึงที่สุดและเอาผิดแบบไม่มีข้อต่อรองใดๆ
ผมต้องการพิสูจน์จุดยืนในเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดจากผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ที่มากระทำต่อผู้หญิงที่ยังอยู่ในวัยรุ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมรังเกียจมาตลอดชีวิต ดังนั้นผมจะกำจัดคนชั่วร้ายให้ออกไปจากวงการนักเขียนและศิลปะ
สองสามวันมานี้ผมคอยเฝ้าดูแลจิตใจเธอด้วยความเป็นห่วง เชื่อว่า จนถึงตอนนี้จิตใจเธอเกือบจะปกติแล้ว
เอาเข้าจริงเธอแกร่งกว่า กล้าหาญกว่า และเข้มแข็งกว่าที่ผมคาดไว้มาก
เธออดทนจนงานธีสิสเสร็จ แลัวค่อยจัดการเรื่องนี้ เธอยืนกรานว่าจะไม่ยอมความเด็ดขาดและจะเอาผิดให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องผู้หญิงที่จะต้องตกเป็นเหยื่อในอนาคต
ตลอดชีวิตที่ผ่านมาผมบอกลูกเสมอว่าโลกนี้ไม่ได้งดงามดั่งตาเห็น บทเรียนชีวิตต้องเรียนรู้จากการใช้ชีวิตจริงๆ ในสังคม
วันนี้ลูกคงได้รับบทเรียนชีวิตที่สำคัญไปแล้ว คือ อย่าไว้ใจมนุษย์
ขอบคุณพี่ป้าน้าอาทุกคนที่มีส่วนช่วยให้ความช่วยเหลือในทางกฎหมาย คำปรึกษา และกำลังใจมากมายที่มีต่อผมและลูกสาว
และขอบคุณตำรวจหนุ่มสาวที่สถานีตำรวจ สน.ประชาชื่น ทำหน้าที่ดีมาก ช่วยเหลือลูกและผมในการสอบสวน จนนำไปสู่การดำเนินคดี ซึ่งผมและครอบครัว รวมทั้งเพื่อนของลูกสาว ขอยืนยันจะยืนหยัดต่อสู้แบบถึงที่สุด
ปล. แม้ลูกจะรอดมาอย่างปลอดภัย แต่หากใครเคยประสบเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบใด จากบุคคลนี้ และอยากจะร่วมต่อสู้ ผมขอสนับสนุนและยินดีช่วยเหลือนะครับ เราทุกคนที่เป็นเหยื่อต้องกล้าสู้กับคนเลว
ฝันร้ายต้องอยู่กับคนกระทำ ไม่ใช่ผู้ถูกกระทำ