
เตรียมพร้อม! ราคากาแฟพุ่ง หลังการผลิตในบราซิล-โคลอมเบียลดลง จากสภาพอากาศเลวร้ายและต้นทุนราคาปุ๋ย
Wall Street Journal รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (21 ส.ค.) ว่า ผลผลิตกาแฟที่ลดลงในบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาจดันราคากาแฟทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
จากข้อมูลการซื้อขายกาแฟฟิวเจอร์ส พุ่งขึ้นเกือบ 90% ในปีที่แล้ว หลังจากภาวะภัยแล้งและน้ำค้างแข็งซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตของบราซิล
ดันราคากาแฟพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ 2.59 ดอลลาร์/ปอนด์ (94 บาท) โดยข้อมูล ณ สัปดาห์ที่แล้ว ราคากาแฟโดดเพิ่มขึ้น 18.06% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่ 2.23 ดอลลาร์/ปอนด์ (81 บาท)
นักวิเคราะห์ตลาดคาดว่า ราคากาแฟจะพุ่งขึ้นอีก เนื่องจากลักษณะการเก็บเกี่ยวที่จำเพาะของบราซิล ที่จะทำการเก็บเกี่ยวทุกๆ 2 ปี โดยจะเก็บเกี่ยวกาแฟพันธุ์อาราบิก้าในปีที่เป็นเลขคู่
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายในปี 2021 ส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขการเก็บเกี่ยวผลผลิตกาแฟในปีนี้ออกมาต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณารวมปัจจัยด้านต้นทุนปุ๋ยและการขนส่งที่พุ่งสูงขึ้น
นอกจากบราซิลแล้ว โคลอมเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่อีกราย ก็ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ชื้นกว่าปกติเช่นกัน ซึ่ง Wall Street Journay คาดการณ์ว่า ไร่กาแฟบางแห่งอาจมีผลผลิตลดลงถึง 50% ในปีนี้
ทั้งนี้ จากรายงานขององค์การกาแฟระหว่างประเทศ ( ICO ) คาดการณ์ว่า ในเดือนกรกฎาคม ปีนี้ การบริโภคกาแฟทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นและจะแซงหน้าการผลิตภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเมื่อรวมกับปัจจัยด้านผลผลิตที่ลดลง อาจดันราคากาแฟสู่สถิติสูงสุดใหม่
(1 ดอลลาร์ = 36.13 บาท)
สั่งชดเชย 1.8 ล้านบาท ศาลสั่งบริษัทจ่ายเงินชดเชยให้พนักงาน ที่ถูกไล่ออกเพราะ ‘กินเหล้าระหว่างงาน’
ค้าขายกับจีนสะดวกขึ้น ไทยพาณิชย์ หนุนเอสเอ็มอีใช้บริการ “Yuan Pro Rata Forward” ตัวช่วยบริหารสกุลเงินหยวน ผ่านแพลตฟอร์ม SCB FX Online
เร่งผลิตแร่โปแตช ลดการนำเข้าแก้ไขปัญหาราคาปุ๋ยแพง ประหยัดได้ปีละหมื่นล้าน
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม