รมต.สาธารณสุขเยอรมนีเตือน โรงพยาบาลกำลังเสี่ยง ‘ล้มละลาย’ หากรัฐไม่เร่งแก้เงินเฟ้อและราคาพลังงาน

คาร์ล เลาเตอร์บัค รมว.สาธารณสุข ออกมาเตือนว่า โรงพยาบาลหลายแห่งในเยอรมนีอาจต้องล้มละลาย ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจากวิกฤตราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง หากรัฐบาลกลางไม่ใช้ยาแรงเพื่อจัดการปัญหาอย่างเร่งด่วน

หลังจากที่ สหพันธ์โรงพยาบาลเยอรมัน ร้องเรียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รพ.อาจมี funding gap เพิ่มขึ้นเป็นราวๆ 1.5 หมื่นล้านยูโร (ราว 5.59 แสนล้านบาท) ในปีนี้และปีหน้า พร้อมชี้แจงว่าค่าใช้จ่ายด้านพลังงานคิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของยอดรวมนั้น ในขณะที่ส่วนที่เหลือมาจาก ต้นทุนด้านวัสดุอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ

รมต.สธ มีกำหนดเข้าพบกับรมว.คลัง นายคริสทีอัน ลินด์เนอร์ ในวันนี้ (18 ต.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับรูปแบบความช่วยเหลือที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม รมต.สธ ได้ตัดนโยบายจัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อนำไปพยุงโรงพยาบาล ออกไปจากตัวเลือกในการแก้ปัญหาแล้ว

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนียังคงทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง สู่ระดับ 10.9% ในเดือนกันยายน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่การรวมประเทศเมื่อปี 1990 โดยประธานสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี อธิบายว่า วิกฤตราคาพลังงานและค่าอาหารที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล เป็นสาเหตุหลักของปัญหาเงินเฟ้อสูง

นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของเยอรมนีได้ออกมาเตือนว่า วิกฤตราคาพลังงาน อาจดันเศรษฐกิจเยอรมนีเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่า เยอรมนีจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าด้วย

ในขณะที่ EnBW AG บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของเยอรมนี ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ราคาก๊าซที่ใช้ในครัวเรือนจะพุ่งขึ้นอีกราว 38% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้

(1 ยูโร = 37.26 บาท)