ผมเป็นกลางแน่นอน ไม่ได้เข้าข้างตำรวจ นิ้วไหนร้ายก็ต้องตัด ถ้าใครยังทำแบบนี้อยู่ เลิกได้แล้ว พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีป้าบัวผัน และลุงเปี๊ยก เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567

สืบเนื่องจากกรณีที่กลุ่มวัยรุ่นลูกตำรวจทำร้ายป้าบัวผันจนถึงแก่ชีวิตอย่างโหดเหี้ยม และกรณีคลิปลุงเปี๊ยกถูกคลุมถุงดำบังคับให้รับสารภาพนั้น เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในกรณีข้าราชการตำรวจกระทำผิด พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 กำหนดไว้ชัดเจน

ซึ่งที่ผ่านมา ในที่ประชุม ก.ตร. ไดัมีมติลงโทษ ข้าราชการตำรวจมาตลอด ในจำนวนไม่น้อย มีทั้งปลดออก ไล่ออก ติดคุก บางคดียังอยู่ที่ ปปช. มีการลงทัณฑ์ ภาคทัณฑ์ คดีอยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาล จึงถือได้ว่า ตร.เป็นหน่วยงานที่มีมาตราการเข้มกับตำรวจนอกรีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของตนที่จะสนับสนุนตำรวจดี ๆ ให้มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ แต่ตำรวจชั่วต้องหมดไป

“ผมพูดตั้งแต่วันแรกแล้ว ตำรวจถ้าไม่ปรับตัว มันอยู่ไม่ได้ คุณจะใช้วิธีการเก่าๆ เป็นไปไม่ได้แล้ว พ.ร.บ.อุ้มหาย ก็ค้ำตัวอยู่ ถ้าตำรวจผิด ไม่เอาไว้ แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น ก็ต้องให้ความยุติธรรมกับตำรวจด้วย ผมเป็นกลางแน่นอน ไม่ได้เข้าข้างตำรวจ นิ้วไหนร้ายก็ต้องตัด เลิกได้แล้ว ถ้าใครยังทำแบบนี้อยู่” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว

พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ยังระบุเพิ่มเติมว่า เรื่องคลิปเสียงที่กำลังเป็นประเด็น เหมือนหนังทั้งม้วน เราดูหนังทั้งม้วน หรือดูแค่ตอนเดียว เรื่องนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ แต่พยายามจะทำให้เคลียร์ ถ้าผิดก็คือผิด การพิสูจน์พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และทางเทคนิคเดี๋ยวนี้พิสูจน์ง่าย 

พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่เห็นอะไรแล้วส่งมา เพราะบางที บางประเด็น ตำรวจอาจจะไม่เห็น การช่วยตรวจสอบทำให้ตำรวจต้องตอบข้อสงสัยของประชาชน ตำรวจต้องโปร่งใสแล้ว ตนพยายามยกมาตรฐานการสืบสวนให้เทียบเท่าต่างประเทศ และขอให้ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวน ยืนยันจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง และชัดเจน