
ฝรั่งเศสประท้วงรอบใหม่ เพื่อคัดค้านกฎหมายการ ‘ปฏิรูปบำนาญ’ ที่เลื่อนอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 64 ปี ชี้หากไม่ปรับจะขาดดุลปีละ 3.7 แสนล้านบาท
ชาวฝรั่งเศสเดินขบวนประท้วงรอบใหม่ คัดค้านแผนปฏิรูประบบบำนาญของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ส่งผลให้การจราจรเป็นอัมพาต การจัดส่งเชื้อเพลิงหยุดชะงัก โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 สหภาพแรงงานฝรั่งเศสนัดรวมตัวเดินขบวนประท้วง เพื่อคัดค้านแผนปฏิรูประบบบำนาญของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งคาดว่าจะมีการลงมติร่างกฎหมายฉบับนี้อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
นโยบายสำคัญของแผนปฏิรูประบบบำนาญนี้ คือการเลื่อนอายุเกษียณออกไป 2 ปี จาก 62 ปี เป็น 64 ปี และเพิ่มจำนวนปีที่ประชาชนต้องจ่ายเงินสมทบเป็น 43 ปี เพื่อที่จะได้รับเงินบำนาญเต็มจำนวน
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง พยายามผลักดันแผนปฏิรูประบบบำนาญมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าระบบบำนาญเดิมจะขาดดุลถึงปีละ 1 หมื่นล้านยูโร (3.7 แสนล้านบาท) ระหว่างปี 2565-2575
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลฝรั่งเศสต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชน โดยประชาชนกว่าล้านคนออกมาเดินขบวนทั่วประเทศในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อต่อต้านแผนปฏิรูปดังกล่าว ขณะที่การประท้วงรอบล่าสุดนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมเดินขบวนทั่วประเทศราว 2 ล้านคน
สหภาพแรงงาน CGT กล่าวว่า การนัดหยุดงานเพื่อปิดโรงกลั่น Gonfreville ในนอร์มังดี จะดำเนินไปจนถึงวันพฤหัสบดี ซึ่งอาจส่งผลให้สถานีบริการน้ำมันขาดแคลนเชื้อเพลิงภายในสิ้นสัปดาห์นี้
ผลการสำรวจโดย Elabe บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาของฝรั่งเศส ชี้ว่า ชาวฝรั่งเศสกว่า 2 ใน 3 สนับสนุนการประท้วงต่อต้านแผนปฏิรูประบบบำนาญ ของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง